Page 3 - (ทดสอบ) สำมะโนที่ดิน

ก

บทสรุปส ำหรับผู้บริหำร

การด าเนินงานในโครงการส ารวจจัดท าส ามะโนที่ดินเพอการพฒนาที่ดินปีงบประมาณ
ั
ื่
ื่
พ.ศ. 2563 ในแผนการใช้ที่ดินระดับต าบล มีวัตถุประสงค์ เพอส ารวจภาวะการถือครองที่ดิน
ของเกษตรกรอย่างละเอยดซึ่งผลของการด าเนินงานท าให้ได้ข้อมูลที่อยู่ในรูปของแผนที่เชิงเลข และ
ี
สารสนเทศภูมิศาสตร์ ประกอบด้วยรายชื่อผู้ถือครองที่ดิน และการใช้ประโยชน์ที่ดินรายแปลง ตลอดจน
กิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นด้านการเกษตรที่เกษตรกรได้กระท าในพนที่ เช่น แหล่งน้ าที่ใช้ด้านการเกษตร
ื้
ปัญหาในการท างานด้านการเกษตร ขนาดของแปลงที่ดินของเกษตรกร ฯลฯ ทั้งนี้โดยใช้ฐานข้อมูลแปลง
ที่ดินเชิงเลขจากกรมที่ดิน ส านักงานการปฏิรูปที่ดินเพอเกษตรกรรม ตลอดจนข้อมูลแผนที่กระดาษ
ื่
หลักฐานการเสียภาษีของเกษตรกรที่องค์การบริหารส่วนต าบล และหน่วยงานอน ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ื่
ที่ถูกรวบรวม และปรับให้อยู่ในระบบแผนที่เชิงเลข

ื้
ส าหรับการปฏิบัติงานในพนที่ เจ้าหน้าที่จะท าการประสานงานกับผู้น าชุมชนในแต่ละหมู่บ้าน
ั
ื่
เพอประชาสัมพนธ์การเข้าปฏิบัติงาน รวมถึงการเชิญชวนให้เกษตรกรน าหลักฐานเกี่ยวกับแปลงที่ดิน
ของตนเอง เข้ามาให้ข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์จากแบบสอบถาม และชี้แปลงที่ดินบนแผนที่ภาพถ่ายที่ได้
เตรียมมาจากส านักงาน เพอเป็นข้อมูลใช้วิเคราะห์จัดท ารูปเล่มรายงานเสนอกรมฯ และหน่วยงานต่าง ๆ
ื่
ในพื้นที่ต่อไป

ผลของการด าเนินงานในพนที่ต าบลโคกก่อ อาเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม เนื้อที่
ื้
ื้
ื้
48,293 ไร่ ครอบคลุมพนที่ 16 หมู่บ้าน มีเขตที่ดินของรัฐ ร้อยละ 10.02 พนที่ทางการเกษตร
ื้
ร้อยละ 80.55 และเป็นพนที่นอกการเกษตร เช่น ที่อยู่อาศัย สถานที่ราชการ วัด โรงเรียน เป็นต้น
ร้อยละ 9.43 มีเกษตรกรเป็นเจ้าของที่ดินเอง ร้อยละ 54.87 ญาติ/เข้าท าเปล่า ร้อยละ 22.57 และ
ให้ข้อมูลแทน ร้อยละ 21.98 โดยหลักฐานการถือครองที่ดินส่วนใหญ่เป็นเอกสารสิทธิประเภท
โฉนดที่ดินมากที่สุด ร้อยละ 73.29 รองลงมาเป็น ส.ป.ก. 4-01 ร้อยละ 18.86 ส าหรับขนาดของ

สัดส่วนแปลงที่ดินส่วนใหญ่อยู่ในช่วง 1-5 ไร่ ร้อยละ 39.49 รองลงมาแปลงที่ดินมีขนาด 5–10 ไร่
ร้อยละ 24.81 และแปลงที่ดินที่มีขนาด 10-20 ไร่ ร้อยละ 16.08
ด้านการใช้ประโยชน์ที่ดิน (ระดับ 3 ของกรมพฒนาที่ดิน) พบว่า เกษตรกรท านามากที่สุด
ั
ร้อยละ 75.67 รองลงมา คือ มันส าปะหลัง ร้อยละ 5.44 แหล่งที่มาของน้ าที่ใช้ในการเกษตร พบว่า

เกษตรกรใช้แหล่งน้ าจากน้ าฝนอย่างเดียว เป็นหลัก ร้อยละ 79.41 ปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตมาก
ที่สุด ๒ อันดับแรก ได้แก่ ภัยแล้ง ร้อยละ 73.16 รองลงมาเป็นโรคพืช/ศัตรูพืช ร้อยละ 32.87 การใช้ปุ๋ย
ิ
พบว่า เกษตรมีการใช้ปุ๋ยเคมี/ปุ๋ยอนทรีย์มากที่สุด ร้อยละ 46.62 รองลงมา คือ ปุ๋ยอนทรีย์ ร้อยละ
ิ
23.59 ปุ๋ยเคมี ร้อยละ 21.31 และไม่ใช้ปุ๋ย ร้อยละ 8.48 การใช้สารเคมีปราบโรคพชศัตรพช พบว่า
ื
ื
เกษตรกรมีการใช้สารเคมีปราบโรคพชศัตรูพืช ร้อยละ 1.65 และไม่ใช้สารเคมปราบโรคพืชศัตรูพืช ร้อยละ
ื
ี
98.35 ปัญหาด้านดินที่พบในพนที่มากที่สุด 3 อนดับแรก ได้แก่ ปัญหาดินทราย ร้อยละ 85.78 รองลงมา
ื้
ั
ดินเค็ม ร้อยละ 1.90 และดินเหนียว 0.84
ื่
ในการบูรณาการข้อมูลกับหน่วยงานอนทางส านักเทคโนโลยีการส ารวจและท าแผนที่ได้สอบถาม
ถึงการขึ้นทะเบียนของเกษตรกรกับกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งจากการส ารวจพบว่ามีเกษตรกร
ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร (สมุดเล่มเขียว) มากที่สุด ร้อยละ 90.80 รองลงมาขึ้นทะเบียนกับ
กรมการข้าว ร้อยละ 0.51 และขึ้นทะเบียนกับสมุดเล่มแดง ของ ธกส. ร้อยละ 0.38 การเข้าร่วม

ั
กิจกรรมบัตรดินดีของกรมพฒนาที่ดิน พบว่า เกษตรกรเข้าร่วมกิจกรมบัตรดินดี ร้อยละ 1.05 และ
เกษตรกรไม่เข้าร่วมกิจกรรมบัตรดินดี ร้อยละ 98.95 การประมาณบัญชีจากผลผลิตทางการเกษตร