Page 132 - สนง.ศาลภาค 2 กฎหมาย ระเบียบ และบทความที่เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ เล่ม 2
P. 132

หน้า   ๒๒

              เล่ม   ๑๓๓   ตอนที่   ๖๔   ก          ราชกิจจานุเบกษา                 ๒๙   กรกฎาคม   ๒๕๕๙


                     ข้อ  ๑๘  ปัญหาสําคัญอื่นตามมาตรา  ๔๕  วรรคสอง  (๘)  ได้แก่  กรณีดังต่่อไปนี้
                     (๑)  คําพิพากษาหรือคําสั่งของศาลอุทธรณ์แผนกคดีค้ามนุษย์มีความเห็นแย้งในสาระสําคัญ

                     (๒)  คําพิพากษาหรือคําสั่งของศาลอุทธรณ์แผนกคดีค้ามนุษย์ได้วินิจฉัยข้อกฎหมายสําคัญ
              ที่ไม่่สอดคล้องกับความตกลงระหว่างประเทศที่มีผลผูกพันกับประเทศไทย

                     (๓)  คําพิพากษาหรือคําสั่งของศาลอุทธรณ์แผนกคดีค้ามนุษย์กําหนดให้จําเลยชดใช้ค่าเสียหาย
              เพื่อการลงโทษตามมาตรา  ๑๔  สูงเกินส่วน

                     (๔)  ปัญหาที่เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง

                     ข้อ  ๑๙  ในกรณีที่องค์คณะผู้พิพากษาเห็นว่า  ปัญหาตามคําร้องแสดงเหตุที่ศาลฎีกาควรรับ
              ฎีกาทั้งหมดหรือบางข้อเป็นปัญหาสําคัญที่ศาลฎีกาควรวินิจฉัย  ให้มีคําสั่งอนุญาตให้ฎีกาและสั่งรับฎีกา

              ทั้งหมดหรือบางข้อไว้พิจารณาแล้วส่งให้ศาลชั้นต้นอ่านคําสั่งดังกล่าวให้คู่ความฟัง
                     จําเลยฎีกาอาจยื่นคําแก้ฎีกาต่อศาลชั้นต้นได้ภายในกําหนดสิบห้าวันนับแต่วันฟังคําสั่ง  และภายใน

              กําหนดเจ็ดวันนับแต่วันที่จําเลยฎีกายื่นคําแก้ฎีกาหรือนับแต่ระยะเวลาที่กําหนดไว้สําหรับการยื่นคําแก้ฎีกา
              ได้สิ้นสุดลง  ให้ศาลชั้นต้นส่งคําแก้ฎีกาไปยังศาลฎีกาหรือแจ้งให้ทราบว่าไม่มีคําแก้ฎีกา  เมื่อศาลฎีกาได้รับ

              คําแก้ฎีกาหรือแจ้งความเช่นว่าแล้ว  ให้นําคดีลงสารบบความโดยพลัน
                     การขอขยายระยะเวลายื่นคําแก้ฎีกาให้นําความในข้อ  ๑๔  มาใช้บังคับโดยอนุโลม

                     ข้อ  ๒๐  ในกรณีที่องค์คณะผู้พิพากษาเห็นว่า  คําร้องมิได้ปฏิบัติตามข้อ  ๑๑  หรือปัญหา

              ตามคําร้องทั้งหมดมิใช่ปัญหาสําคัญที่ศาลฎีกาควรวินิจฉัย  ให้มีคําสั่งยกคําร้องและไม่รับฎีกาแล้วส่งสํานวนความ
              คืนศาลชั้นต้นเพื่อแจ้งให้คู่ความทราบโดยเร็ว

                     คําสั่งที่ไม่อนุญาตตามวรรคหนึ่งให้แสดงเหตุผลโดยย่อ  และให้องค์คณะผู้พิพากษามีอํานาจสั่งคืน
              ค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาทั้งหมดหรือแต่บางส่วนแก่ผู้ฎีกาได้ตามที่เห็นสมควร

                     ข้อ  ๒๑  ในกรณีที่มีคู่ความหลายฝ่ายต่างยื่นคําร้องแสดงเหตุที่ศาลฎีกาควรรับฎีกาไว้พิจารณา
              ให้วินิจฉัยโดยทําเป็นคําสั่งฉบับเดียวกันก็ได้

                     ข้อ  ๒๒  ห้ามมิให้ผู้พิพากษาซึ่งเป็นองค์คณะที่พิจารณาสั่งอนุญาตให้ฎีกาคดีใดเป็นองค์คณะ
              พิจารณาพิพากษาคดีนั้นอีก



                                                ประกาศ  ณ  วันที่  ๒๒  กรกฎาคม  พ.ศ.  ๒๕๕๙
                                                              วีระพล  ตั้งสุวรรณ

                                                              ประธานศาลฎีกา
   127   128   129   130   131   132   133   134   135   136   137