Page 5 - หนังสือแรงบันดาลใจ
P. 5

็
        ตั้งใจไวหรือไมวาโตขึ้นอยากเปนผูพิพากษา
             ้
                  ่ ่
                                ้

               “ ดิฉันเกิดในหมู ่ บ ้ านเล็กบนภูเขาในจังหวัดเลย คนที่นั่นไม ่ เห็นความสำาคัญของการเรียนหนังสือ คิดว ่ าการเรียน
        หนังสือเสียเวลาทำามาหากิน  แต ่ ไม ่ รู ้ ทำาไมตัวเองถึงมีความคิดที่แปลกกว ่ าคนอืน  คือชอบอ ่ านหนังสือมาก  สมัยเรียนประถม
                                                    ่
        เด็กคนอืนไปวิ่งเล ่ นกัน ตัวเองก็นั่งอ ่ านหนังสืออยู ่ ในห ้ องสมุดของโรงเรียน ตอนเด็ก ๆ ไม ่ รู ้ ด ้ วยซ้ำาว ่ าผู ้ พิพากษาคืออะไร
             ่
                                                                            ่
        ไม ่ เคยได ้ ยินคำานี้  ตอนนั้นแค ่ ว ่ าอยากเรียนต ่ อให ้ จบปริญญาตรีก็พอ ส ่ วนทำางานอะไรยังไม ่ ได ้ คิด  มีอยู ่ วันหนึ่งที่เผลอบอกเพือน
        ไปว ่ าอยากเรียนมหาวิทยาลัยรามคำาแหงแค ่ นั้น เพือนก็มองเราแล ้ วอมยิ้ม คงคิดในใจว ่ าเราใฝ ่ สูงเกินตัว เพราะตอนนั้น
                                      ่
                                                       ็
        กำาลังเรียนการศึกษานอกโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต ้ นอยู ่  ความคิดอยากเปนผู ้ พิพากษาเริ่มตอนที่เรียนปริญญาตรี
        และได ้ ยินอาจารย ์ ที่สอนในชั้นพูดว ่ า อาชีพผู ้ พิพากษา เปนอาชีพที่สงบ สันโดษ ไม ่ มีเส ้ นสาย ทุกคนก ้ าวเข ้ าสู ่ ตำาแหน ่ งนี้
                                         ็
                                                    ั
        ด ้ วยความสามารถ ผู ้ พิพากษาทุกคนใช ้ ชีวิตแบบพอเพียง ตามที่ราชการจัดให ้ ฟงแล ้ วก็รู ้ สึกว ่ านี่แหละคือเส ้ นทางชีวิตที่เราชอบ
                                                      ็
        เป ้ าหมายก็ชัดเจนนับแต ่ นั้นจากนั้นก็ศึกษาหาข ้ อมูล และเตรียมตัวเข ้ าสู ่ สนามการเปนผู ้ พิพากษา จนกระทั่งสอบผู ้ พิพากษาได ้  ”
                                           ็
        อยากใหทานเลาชีวประวัติตั้งแตวัยเด็กจนกาวมาเปนผูพิพากษา
                              ่
                   ่
              ้ ่
                                      ้
                                             ้

               “ อย ่ างที่เล ่ าไปบ ้ างแล ้ วในตอนต ้ น ดิฉันเกิดที่หมู ่ บ ้ านเล็ก ๆ ในจังหวัดเลย คนในหมู ่ บ ้ านมีอาชีพทำาไร ่  ทำานา
        ที่หมู ่ บ ้ านไม ่ ค ่ อยมีแหล ่ งน้ำาทำาการเกษตร ต ้ องอาศัยน้ำาฝนเพียงอย ่ างเดียว ทำานาได ้ ปละครั้ง ต ้ องไปยืมเงิน ธ.ก.ส. มาลงทุน
                                                        ี
                                                ็
        ทำาไร ่ ข ้ าวโพด ตั้งแต ่ เล็กจนโตก็เห็นพ ่ อแม ่ ทำางานหนักแต ่ รายได ้ ต่ำา เปนหนี้ ธ.ก.ส. รายได ้ ไม ่ พอกับรายจ ่ ายก็เลยอยากจะ
                                                              ็
        แบ ่ งเบาภาระของพ ่ อแม ่ บ ้ าง  แต ่ โดยส ่ วนตัวแล ้ วเปนคนทำางานหนักไม ่ ไหว  ทำาไร ่ ทำานา  ไม ่ เปน  เพราะยายเลี้ยงมาแบบ
                                     ็
        ทะนุถนอม ไม ่ เคยทำางานบ ้ านเองไม ่ เคยซักผ ้ าเอง ยายทำาให ้ ตลอด หลังจบประถมศึกษา พ ่ อแม ่ ก็ให ้ ออกมาช ่ วยทำาไร ่  ทำานา
        แต ่ ผลงานไม ่ ค ่ อยดี พ ่ อแม ่ ให ้ ไปเลี้ยงวัวเลี้ยงควาย ก็ทำาได ้ ไม ่ ดีอีกเพราะมัวแต ่ ฟงละครวิทยุจนวัว ควาย แอบไปกินพืชไร
                                                      ั
        ของชาวบ ้ าน  ชาวบ ้ านชอบพูดกันว ่ า ดิฉันเปนคนทำาอะไรไม ่ ได ้ เรือง ถ ้ าไม ่ มีพ ่ อแม ่ คอยดูแลแล ้ วจะเอาตัวรอดได ้ อย ่ างไร
                                  ็
                                              ่
        พอได ้ ฟงแบบนั้นก็เสียใจ และคิดว ่ าตัวเองคงไม ่ เหมาะกับการทำาไร ่ ทำานา  เราอยากเรียนหนังสือมากกว ่ า อยากไปหางานอืนทำา
                                                                           ่
            ั
                                                ั
        และส ่ งเงินมาให ้ พ ่ อแม ่  แต ่ ก็เข ้ าใจว ่ าพ ่ ออยากส ่ งเรียนแต ่ ไม ่ มีเงิน พอดีฟงวิทยุเค ้ าบอกว ่ ามีการเรียนทางไกล ที่ศูนย ์ การศึกษา
        นอกโรงเรียนจังหวัดเพชรบูรณ ์  ”






                                          2
   1   2   3   4   5   6   7   8   9   10