Page 12 - คู่มือปฏิบัติงานศาลอาญาคดีทุตจริตฯ
P. 12

คู่มือการปฏิบัติงานศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
                                                                                                          | 1



                                                             บทน า





                     1. ความเป็นมา



                                ศาลอาญาคดีทุจริตฯ จัดตั้งขึ้นโดย พ.ร.บ. จัดตั้งฯ ซึ่งมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่

                     17 สิงหาคม 2559 ประกอบด้วยศาลอาญาคดีทุจริตฯ กลางและศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค

                     ส่วนการเปิดท าการศาลอาญาคดีทุจริตฯ กลาง เปิดท าการเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๙

                     ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค ๑ ภาค ๓ ถึงภาค ๖ ภาค ๘ และภาค ๙ เปิดท าการเมื่อวันที่

                     ๑ เมษายน ๒๕๖๐ และศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค ๒ กับภาค ๗ เปิดท าการเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม

                     ๒๕๖๐ และการด าเนินกระบวนพิจารณาเป็นไปตาม พ.ร.บ. วิ. ทุจริตฯ และข้อบังคับของ


                     ประธานศาลฎีกาฯ

                                ส าหรับการพิจารณาคดีอาญาในระบบไต่สวนของศาลชั้นต้นก่อนหน้านี้นั้น แม้ว่า

                     พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542

                     (แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2554) มาตรา 98/1 บัญญัติให้การด าเนินกระบวนพิจารณาคดีเกี่ยวกับ

                     การฟ้องคดีบุคคลตามมาตรา 84 ต่อศาลที่มีเขตอ านาจตาม ป.วิ.อ. ให้ศาลใช้ระบบไต่สวน ตาม


                     ระเบียบที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาก าหนด โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งต่อมา ในปี 2556

                     ประธานศาลฎีกา โดยความเห็นชอบของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาออกระเบียบที่ประชุมใหญ่

                     ศาลฎีกาว่าด้วยการด าเนินกระบวนพิจารณาโดยใช้ระบบไต่สวนกับเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมิใช่

                     ผู้ด ารงต าแหน่งทางการเมืองตามมาตรา ๒๗๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

                     พ.ศ. 2556 มาใช้บังคับเป็นวิธีพิจารณาคดีอาญาระบบไต่สวนเรื่อยมา รวมระยะเวลานานกว่า


                     ๕ ปี ก็ตาม แต่ในช่วงเวลาดังกล่าวการพิจารณาคดีอาญาระบบไต่สวนในแต่ละศาลยังไม่เป็นไป

                     ในทิศทางเดียวกัน ทั้งไม่เคยมีการออกระเบียบหรือแนวทางการปฏิบัติงานของศาลในเรื่องนี้

                     ไว้ด้วย ประกอบกับ พ.ร.บ. วิ. ทุจริตฯ มีบทบัญญัติเพียง 53 มาตรา และหลายมาตราเป็นการ

                     บัญญัติเฉพาะเรื่องที่แตกต่างจากวิธีพิจารณาคดีอาญาตาม ป.วิ.อ. เดิมทั้งสิ้น เช่น องค์คณะ

                     ผู้พิพากษามีบทบาทในการไต่สวนค้นหาความจริง การมิให้นับระยะเวลาที่ผู้ถูกกล่าวหา หรือ

                     จ าเลยหลบหนีรวมเป็นส่วนหนึ่งของอายุความ หรือการฎีกาที่ต้องได้รับการอนุญาตจาก

                     ศาลฎีกา เป็นต้น ส่วนที่ไม่ได้บัญญัติไว้ถูกโยงให้กลับไปใช้หลักวิธีพิจารณาความอาญาตาม
   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17