Page 97 - นิตยสารดุลพาห เล่มที่ ๒-๒๕๖๑-กฎหมาย
P. 97
ดุลพาห
นอกจากนั้น เมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการบัญญัติกฎหมายใหม่ๆ เช่น
การดำาเนินคดีเป็นกลุ่มก็ให้โอกาสทนายความได้รับผลตอบแทนจากการทำาหน้าที่จากผล
ของเงินที่ได้รับจากการชนะคดี กล่าวคือ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธี
๑๔
พิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งมีบทบัญญัติให้ศาลมีบทบาทในการกำาหนด
เงินรางวัลจำานวนหนึ่งให้แก่ทนายความอันมีลักษณะเป็นเงินค่าความสำาเร็จ (success fee)
ไม่เกินร้อยละ ๓๐ ของจำานวนเงินซึ่งโจทก์และสมาชิกโจทก์จะได้รับเมื่อชนะคดี ซึ่งเป็นครั้งแรก
ที่มีกฎหมายลายลักษณ์อักษรบัญญัติให้ผลประโยชน์ที่ทนายความจะได้รับมีส่วนเกี่ยวข้องกับ
จำานวนเงินที่ลูกความจะได้รับจากการฟ้องคดี อันแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยได้ให้การยอมรับ
ให้บุคคลภายนอกเข้าไปมีส่วนร่วมในผลของคดีของคู่ความหรือคู่กรณีพิพาทได้
ยิ่งไปกว่านั้นได้มีการรับรองสิทธิในการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของประชาชน
ไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยหลายฉบับ และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นฉบับปัจจุบันได้บัญญัติถึงแนวนโยบายแห่งรัฐในการให้ความ
เป็นธรรมแก่ประชาชนให้สามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมและช่วยเหลือทางกฎหมาย
แก่ประชาชนผู้ยากไร้หรือด้อยโอกาสในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ดังที่บัญญัติไว้ใน
มาตรา ๖๘ ดังนี้
“รัฐพึงจัดระบบการบริหารงานในกระบวนการยุติธรรมทุกด้านให้มีประสิทธิภาพ
เป็นธรรม และไม่เลือกปฏิบัติ และให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้โดยสะดวก
รวดเร็ว และไม่เสียค่าใช้จ่ายสูงเกินสมควร
รัฐพึงมีมาตรการคุ้มครองเจ้าหน้าที่ของรัฐในกระบวนการยุติธรรม ให้สามารถปฏิบัติ
หน้าที่ได้โดยเคร่งครัด ปราศจากการแทรกแซงหรือครอบงำาใดๆ
รัฐพึงให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายที่จำาเป็นและเหมาะสมแก่ผู้ยากไร้หรือผู้ด้อย
โอกาสในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม รวมตลอดถึงการจัดหาทนายความให้”
เมื่อพิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับการที่บุคคลภายนอกให้การสนับสนุนทางการเงิน
แก่คู่กรณีพิพาทในการอนุญาโตตุลาการและจะได้รับผลตอบแทนทางการเงินในกรณีที่คู่กรณี
๑๔. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๒/ตอนที่ ๒๘ ก/หน้า ๑/๘ เมษายน ๒๕๕๘.
86 เล่มที่ ๒ ปีที่ ๖๕