Page 390 - สนง.ศาลภาค 2 กฎหมาย ระเบียบ และบทความที่เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ เล่ม 1
P. 390
- ๓๘ - สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ให้อธิบดีหรือรัฐมนตรีวินิจฉัยอุทธรณ์ตามวรรคหนึ่ง ให้แล้วเสร็จภายในหกสิบวันนับ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่วันที่ได้รับอุทธรณ์
การอุทธรณ์คําสั่งตามวรรคหนึ่ง ไม่เป็นการทุเลาการบังคับตามคําสั่งนั้น เว้นแต่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อธิบดีหรือรัฐมนตรี แล้วแต่กรณี จะสั่งให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
คําวินิจฉัยของอธิบดีหรือรัฐมนตรี ให้เป็นที่สุด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔๐
มาตรา ๑๑๕/๑ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชกําหนดนี้ กฎกระทรวง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประกาศ หรือระเบียบที่ออกตามความในพระราชกําหนดนี้ ให้สันนิษฐานว่าผู้มีหน้าที่ได้กระทําการ
หรือปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต และได้รับความคุ้มครองความปลอดภัยและการช่วยเหลือด้านการเงินและ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ด้านอื่นที่เกี่ยวข้องจากรัฐในกรณีที่ถูกดําเนินคดี ตามหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีประกาศกําหนด
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๖ เรือประมงใดถูกใช้ทําการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้รัฐมนตรี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประกาศรายชื่อเรือนั้นให้ทราบทั่วกัน และจะสั่งให้นายทะเบียนเรือตามกฎหมายว่าด้วยเรือไทยเพิก
ถอนทะเบียนเรือสําหรับใช้ในการประมงด้วยก็ได้ และเมื่อรัฐมนตรีประกาศรายชื่อเรือประมงนั้น หรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มีการออกคําสั่งเพิกถอนทะเบียนเรือแล้ว ห้ามมิให้ผู้ใดใช้เรือนั้นทําการประมงอีกเป็นระยะเวลาตามที่
รัฐมนตรีประกาศกําหนดซึ่งต้องไม่น้อยกว่าสองปีนับแต่วันที่มีประกาศรายชื่อดังกล่าว และในระหว่าง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
เวลาดังกล่าว ห้ามไม่ให้เจ้าของท่าเทียบเรือประมงหรือกิจการแพปลายินยอมให้เรือประมงดังกล่าวนํา
สัตว์น้ําขึ้นเทียบท่าเทียบเรือประมงหรือแพปลาของตน
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๗ ประกาศรายชื่อเรือประมงตามมาตรา ๑๑๖ อย่างน้อยต้องมี
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
รายละเอียด ดังต่อไปนี้
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๑) ชื่อเรือประมงและชื่อเดิม
(๒) ธงของเรือประมงและธงสัญชาติเดิมของเรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๓) เจ้าของเรือ เจ้าของเรือคนเดิมที่เกี่ยวข้อง และผู้ได้รับผลประโยชน์ของเรือดังกล่าว
(๔) เลขทะเบียนหรือหมายเลขประจําเรือที่ออกโดยองค์การระหว่างประเทศ และที่
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ออกโดยกรมเจ้าท่า
(๕) รูปถ่ายของเรือ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) วันที่ขึ้นบัญชีรายชื่อ
(๗) ระบุการกระทําความผิดที่เป็นเหตุให้ขึ้นบัญชีรายชื่อเรือประมง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๘) ระยะเวลาการเพิกถอนทะเบียนเรือสําหรับใช้ทําการประมง
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔๑
มาตรา ๑๑๘ ให้กรมประมงแจ้งบัญชีรายชื่อเรือประมงที่รัฐมนตรีประกาศตาม
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
มาตรา ๑๑๖ ที่มิใช่เรือไทย ให้แก่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติและองค์การระหว่าง
ประเทศทราบ
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔๐ มาตรา ๑๑๕/๑ เพิ่มโดยพระราชกําหนดการประมง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐
สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๔๑
มาตรา ๑๑๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกําหนดการประมง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐