Page 456 - สนง.ศาลภาค 2 กฎหมาย ระเบียบ และบทความที่เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ เล่ม 1
P. 456
หนา ๔
้
เลม ๑๓๖ ตอนที่ ๔๕ ก ราชกิจจานุเบกษา ๗ เมษายน ๒๕๖๒
่
ให้น ากฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีค้ามนุษย์มาใช้บังคับกับการพิจารณาคดีบังคับใช้แรงงาน
หรือบริการด้วยโดยอนุโลม”
มาตรา ๘ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา ๕๒/๑ แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและ
ปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑
“มาตรา ๕๒/๑ ผู้ใดกระท าความผิดตามมาตรา ๖/๑ ต้องระวางโทษจ าคุกตั้งแต่หกเดือน
ถึงสี่ปี หรือปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงสี่แสนบาทต่อผู้เสียหายหนึ่งคน หรือทั้งจ าทั้งปรับ
ถ้าการกระท าความผิดตามวรรคหนึ่ง เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระท าได้รับอันตรายสาหัสหรือ
เป็นโรคร้ายแรงซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ต้องระวางโทษจ าคุกตั้งแต่แปดปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่
แปดแสนบาทถึงสองล้านบาท หรือจ าคุกตลอดชีวิต
ถ้าการกระท าความผิดตามวรรคหนึ่ง เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระท าถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษ
จ าคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต
ถ้าการกระท าความผิดตามวรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสาม เป็นกรณีที่ผู้บุพการี
ให้ผู้สืบสันดานท างานหรือให้บริการเพราะเหตุความยากจนเหลือทนทาน หรือเมื่อพิจารณาถึงสภาพความผิด
หรือเหตุอันควรปรานีอื่นแล้ว ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายก าหนดหรือไม่ลงโทษผู้กระท าความผิดเลย
ก็ได้”
มาตรา ๙ ให้ยกเลิกความในวรรคสองของมาตรา ๕๓ แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและ
ปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปราม
การค้ามนุษย์ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ในกรณีที่ผู้กระท าความผิดตามวรรคหนึ่งหรือตามมาตรา ๖/๑ เป็นนิติบุคคล ถ้าการกระท า
ความผิดของนิติบุคคลนั้นเกิดจากการสั่งการหรือการกระท าของกรรมการ หรือผู้จัดการ หรือบุคคลใด
ซึ่งรับผิดชอบในการด าเนินงานของนิติบุคคลนั้น หรือในกรณีที่บุคคลดังกล่าวมีหน้าที่ต้องสั่งการหรือ
กระท าการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระท าการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้นกระท าความผิด ผู้นั้นต้องรับโทษ
ตามที่บัญญัติไว้ส าหรับความผิดนั้น ๆ ด้วย”
ผู้รับสนองพระราชโองการ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี