Page 37 - ความผดทางอาญาและความผดทางแพง.docx_Neat
P. 37
36
ิ
่
ุ
ื
็
่
ื
ี
แนวค าตอบ ไม่ใชอุปสงค์ เพรำะอปสงค์จะต้องเปนควำมต้องกำรซ้อทซ้อได้จรง
์
กฎของอุปสงค (Law of Demand)
กรอบที่ 12
อุปสงค คอความตองการในการซอ
ื
์
้
้
ื
่
่
้
แลวมีกฎวาอยางไร
เราไปศกษากันตอเลยคะ
่
ึ
่
ิ
คือ กำรอธบำยถงพฤตกรรม ของผู้บรโภคในกำรตัดสนใจซ้อสนค้ำ
ิ
ึ
ิ
ิ
ิ
ื
กฎของอุปสงค ์
ี่
ื่
ิ
(Law of Demand) ปรมำณสนค้ำ ทผู้บรโภคต้องกำรซ้อในขณะใดขณะหนง
เมอรำคำสนค้ำเปลยนแปลงไป กฎของอุปสงค์กล่ำวว่ำ
ิ
่
ิ
ึ
่
ิ
ื
ี
จะมควำมสัมพันธ์ในทำงตรงกันข้ำม กับรำคำสนค้ำชนดนั้น
ิ
ิ
ี
ื่
ื
้
้
้
ิ
้
้
P D “ เมอราคาสนคาลดลง ความตองการซอสนคาชนิดนันจะเพิ่มขึ้น”
ิ
ื่
้
้
้
ิ
P D “ เมอราคาสนคาเพิ่มขึ้น ความตองการซอสนคาชนิดนันจะลดลง”
ิ
้
้
ื
P= Price (ราคา)
ื
้
้
D = Demand (ความตองการซอ)
่
ตัวอยาง
่
ถ้ำเงำะ กิโลกรมละ 30 บำท นนำจะซ้อเงำะ 1 กโลกรม
ั
ื
ิ
ั
ี
่
ั
ี
และเมอเงำะรำคำกโลกรมละ 10 บำท นนำจะซ้อเงำะ 3 กโลกรม
่
ิ
ั
่
ิ
ื
ื
ู
รปที่ 20 แสดงเงำะ
(ที่มำ : ธำรำรัตน์ กำศกระโทก, 2562)
ค าถาม ตำมกฎของอปสงค์ รำคำสนค้ำกับปรมำณกำรซ้อมควำมสัมพันธ์ในลักษณะใด
ิ
ุ
ี
ื
ิ