Page 109 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 109
41
กลายเป็นดับ ตัดกรรมตรงนี้ให้ตัดปัจจุบันตรงนี้ให้เยอะ แล้วมันจะน้อยลงเบาบางลง พอตัดตรงนี้ปุ๊บ เรากลายเป็นสงบขึ้นเราเบาขึ้นอิสระขึ้นเราสบายขึ้น ต่อไปกรรมที่จะตามมาคือกรรมความดีนี่แหละ ผลดกี รรมดที เี่ รากา ลงั ทา สง่ ผลใหเ้ ราเกดิ ความสงบความสขุ ความสงบใจความเยน็ ใจความสบายใจ ความ สุขจะเกิดขึ้นกับชีวิตของเรา นี่คือสิ่งที่เราต้องพิจารณา
การปฏิบัติธรรม ธรรมะเป็นอะไรที่กว้างเป็นพิสดารที่อยู่รอบตัวเราทั้งหมด กว้างขวางอยู่รอบตัว เราไปหมด ที่บอกว่าแม้แต่ตัวเราเองก็คือก้อนของธรรมะ เราจะมองรูปอันนี้รูปนามนี้ให้เป็นธรรมะ หรือ จะมองให้เป็นเรา เราจะมองรูปนามอันนี้ให้เป็นธรรมะหรือจะมองให้เป็นเรา ส่วนใหญ่ก็มองว่าเป็นเรา ๆ ๆ แทนที่จะมองนี่คือขันธ์ รูปขันธ์นามขันธ์วิญญาณขันธ์สังขารขันธ์เวทนาขันธ์ เป็นก้อนของธรรมะที่กาลัง ประกาศตัวเองว่าเป็นแบบนี้ ๆ เขากาลังประกาศตัวเองว่าเป็นแบบนี้ ๆ แม้แต่ปัญญา แม้แต่ความรู้ แม้แต่ ความไม่รู้ ก็ยังเป็นสภาวธรรมอย่างหนึ่งที่ปรากฏ ไม่อย่างนั้นพระพุทธเจ้าจะเรียกโลภะโทสะโมหะว่า เป็นความไม่รู้ ความเป็นอกุศลที่ต้องละ เราจะละความไม่รู้ได้อย่างไร
เราจะละความไม่รู้เมื่อเราพร้อมที่จะรู้ พร้อมที่จะเรียน เราไม่สามารถทีจะละความไม่รู้ด้วยการ ไม่สนใจอะไร ปัญญาเกิดขึ้นมาจึงอาศัยการที่พร้อมที่จะรู้พร้อมที่จะเข้าใจพร้อมที่จะฟัง พร้อมที่จะฟัง พร้อมที่จะรู้พร้อมที่จะเข้าใจ นั่นแหละคือตัวปัญญาที่เกิดขึ้น เปิดใจให้กว้างแล้วรับรู้สิ่งที่อยู่รอบข้างเรา รอบตัวเรา แล้วเราก็จะได้รู้ ปัญญาก็จะเพิ่มขึ้น นี่แหละคือการเพิ่มปัญญาของเรา อันนี้ปัญญารู้เรื่องรอบ ตัวนะ ปัญญารู้รอบตัว แต่ตัวสภาวธรรม ปัญญาที่รู้ในตัวในรูปนามรู้อาการพระไตรลักษณ์เกิดดับไป ตรงนี้ต้องมีตัวมุ่งมีเป้าหมายชัดเจน มีเป้าหมายชัดเจนเพื่อความเจริญความงอกงามในธรรม
หมดเวลาแล้ว คิดว่าพอถามเริ่มกว้างขึ้น รู้จักถาม อาจารย์ก็เลยมีเรื่องให้พูด ถ้าไม่ถามก็จะไม่มี เรื่องให้พูดหรอก เพราะอาจารย์ไม่ค่อยมีเรื่อง จริง ๆ แล้วมันว่าง ๆ สมองอยู่แบบว่าง ๆ ไม่ค่อยเก็บอะไร พอมีเรื่องก็พูดตามเรื่องตามราวตามรู้ตามที่รู้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่พูดมาธรรมะที่พูดมา สิ่งที่ถามต้องจา เรา ถามแล้วได้ประโยชน์อะไร เรานาไปใช้ได้อย่างไร เราควรจะนาไปใช้ต่อไหม เพื่อประโยชน์ของเรา ต้องจา ด้วยว่าการทาแบบนี้ เพื่อป้องกันตรงนี้ ไปใช้กับชีวิตของเราให้เกิดขึ้นกับเราจริง ๆ ไม่ใช่ว่าเราใช้แล้วจะได้ ตลอดเวลา แต่นั่นคือสิ่งที่ควรทา สิ่งที่ต้องนามาใช้
แต่ถ้าเราทาได้ตลอดเวลาถือว่าเป็นบุญอย่างยิ่งนะ ถือว่าเป็นคนเก่งมาก ๆ เลย พร้อมที่จะรับรู้ ผ่านบรรยากาศ รับรู้อย่างไม่มีตัวตน แล้วก็เจตนารู้อาการพระไตรลักษณ์ควบคู่กันไป นอกจากรู้อย่างไม่มี ตัวตน นอกจากไม่ทุกข์ยังต้องเดินหน้า ก็คือการรับรู้อย่างไม่ทุกข์อย่างไม่มีตัวตนแล้ว เราก็อยู่อย่างไม่ ทุกข์ แต่ว่าถ้าเรารู้อาการเกิดดับของแต่ละอารมณ์ที่ปรากฏในบรรยากาศนั้นด้วย นั่นคือการเดินหน้าของ สภาวธรรม การเดินหน้าของการปฏิบัติ เพราะฉะนั้นนอกจากว่างแล้วก็ให้รู้อาการเกิดดับ รู้อาการเกิดดับ ของรูปนามตามมา นั่นแหละคือวิธีการที่จะทาให้สภาวะเราก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป ลองใช้เถอะ
ทุกคนมีความดี เอาจิตที่ดีออกมาใช้อย่าเอาความดีเก็บไว้ลึก ๆ ความดีจิตที่ดีอยู่ลึกเกินไป เวลา อารมณ์มากระทบเลยใช้ไม่ทัน ขอให้เอาจิตที่ดีนั้นออกมาข้างหน้า เอาจิตที่ดี ๆ ที่เคยลึก ๆ ให้มันเต็มออก