Page 120 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 120
52
อาการเกดิ ดบั ของเวทนานนี่ ะ เกดิ ดบั ในลกั ษณะอยา่ งไร ตามหลกั แลว้ เรากา หนดในลกั ษณะทวี่ า่ ไมม่ ตี วั เรา กาหนดด้วยความรู้สึกที่ว่างจากตัวตน พิจารณาถึงการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ของเวทนาที่ปรากฏอยู่ สมมติ วา่ เวทนาเกดิ ขนึ้ ทเี่ ขา่ ทหี่ ลงั ทไี่ หล่ ทศี่ รี ษะ หรอื สว่ นใดสว่ นหนงึ่ ของรา่ งกายกต็ าม อยา่ งทบี่ อกแลว้ วา่ เมอื่ กนี้ ี้ เรายกจิตขึ้นสู่ความว่าง อาการทางกายปรากฏอยู่ในที่ว่าง ๆ ไม่มีรูปร่างของตัว เมื่อมีเวทนาเกิดขึ้นมาก็ให้ พิจารณาแบบเดียวกัน การกาหนดรู้ด้วยความรู้สึก อ่า! ด้วยความรู้สึกที่ไม่มีตัวตน เราจะเห็นถึงเวทนา ที่ปรากฏเกิดขึ้นมานั้น ปรากฏเกิดขึ้นมาในที่ว่าง ๆ เช่นเดียวกัน
เป็นธรรมชาติของขันธ์ ๆ หนึ่งที่ทาหน้าที่ ที่กาลังปรากฏเกิดขึ้นอยู่ หน้าที่ของผู้ปฏิบัติ คือมีเจตนา เขา้ ไปกา หนดรถู้ งึ การเกดิ ดบั ของเวทนา การกา หนดอาการเกดิ ดบั ของเวทนา ทเี่ ปน็ ไปตามเหตปุ จั จยั ของตน รเู้ กดิ ดบั อยา่ งไร เกดิ ดบั ในลกั ษณะอยา่ งไร การทเี่ รากา หนดรแู้ บบนี้ กจ็ ะเหน็ อกี อยา่ งวา่ เวทนาทเี่ กดิ ขนึ้ มา ไม่ว่าเราจะชอบไม่ชอบ จะอยากหรือไม่อยาก ก็ปรากฏขึ้นมาเป็นไปตามเหตุปัจจัยของตน สังเกตว่าเวทนา ที่เกิดขึ้น กับจิตที่ทาหน้าที่รู้ เขาเป็นส่วนเดียวกัน หรือคนละส่วนกัน เวทนาที่เกิดขึ้น จัดเป็นเวทนาขันธ์ที่ กาลังทาหน้าที่ตามเหตุปัจจัย เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป แล้วสังเกตดูว่าเวทนาบอกว่าเป็นเรา ไหม บอกว่าเป็นของเราไหม หรือเวทนากับจิตที่ทาหน้าที่รู้นี่นะ เป็นส่วนเดียวกันหรือคนละส่วนกัน สังเกต แบบนี้ การที่ตั้งคาถามให้กับตนเองแบบนี้ เพื่อที่จะรู้ เพื่อที่เราจะได้เห็นชัดถึงสภาวธรรมที่เกิดขึ้น
ไม่ได้บอก...คาว่าเป็นอนัตตา เวทนาเป็นอนัตตา ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา เป็นแค่เพียง สภาวธรรมอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เห็นว่าจิตที่ทาหน้าที่รู้ก็ไม่ได้บอกว่าเป็นเรา มีแต่ตัวจิตที่ทา หน้าที่รู้ ที่เรียกว่าวิญญาณรู้ เรียกว่าธาตุรู้ ทาหน้าที่รู้ทุก ๆ อารมณ์ที่เกิดขึ้น แม้เวทนาหมดไป หายไป ก็ ยังเหลือจิตที่ทาหน้าที่รู้ รู้อะไร รู้ว่าว่าง รู้ว่าสงบ รู้ว่าไม่มีอะไร ทาหน้าที่รับรู้อารมณ์ต่อไป
ทนี หี้ ลกั ของวปิ สั สนา เราพจิ ารณาอาการเกดิ ดบั ของเวทนาทเี่ กดิ ขนึ้ โดยปกตแิ ลว้ การสงั เกตอาการ เกิดดับของอารมณ์ต่าง ๆ หรือที่เรียกว่า อาการเกิดดับของรูปนาม ขันธ์ ๕ รูปนามที่ปรากฏเกิดขึ้นมานี่นะ ต้องรู้ไปพร้อมกัน อย่างเช่นเวทนาที่เกิดขึ้นมา เวทนาที่ปรากฏอยู่ในที่ว่าง ๆ ก็เช่นเดียวกัน กาหนดรู้ถึง อาการของเวทนาที่ปรากฏอยู่ในที่ว่าง ๆ เกิดดับในลักษณะอย่างไร ดับแบบมีเศษ ดับแบบไม่เหลือเศษ ดับ แบบคอ่ ย ๆ ดบั ไป คอ่ ย ๆ จาง คอ่ ย ๆ สลาย หรอื ดบั แบบมอี าการผดุ ขนึ้ มาแลว้ ดบั กระจายไป หรอื ดบั แปบ๊ เงยี บหาย ดบั แปบ๊ เงยี บหายไป นคี่ อื ความแตกตา่ งของลกั ษณะอาการพระไตรลกั ษณ์ อาการเกดิ ดบั ของเวทนา
ความแตกต่างตรงนี้สาคัญมากแค่ไหน ความแตกต่างของลักษณะอาการเกิดดับ ของอารมณ์ที่ เกดิ ขนึ้ นนั้ สา คญั มาก ๆ เพราะอะไร การทเี่ ราสนใจถงึ ความแตกตา่ งของลกั ษณะอาการพระไตรลกั ษณ์ หรอื การเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปของอารมณ์ต่าง ๆ อย่างเช่นเวทนาที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ดับ...เราสนใจว่าดับแบบ กระจาย ดับแบบเด็ดขาด ดับแบบมีเศษ... ไม่มี ตรงนี้นี่ทาไมถึงสาคัญ เพราะการที่เราใส่ใจถึงความแตก ต่าง ความเปลี่ยนไปของอาการเกิดดับที่ปรากฏขึ้นมา จะทาให้เราจดจ่อกับอารมณ์ปัจจุบัน ขณะที่จดจ่อ อยู่กับอารมณ์ปัจจุบัน ทั้งสติ ทั้งสมาธิ ทั้งปัญญา คือสติมีความตื่นตัว มีความตั้งมั่น สมาธิมีความตั้งมั่น ปัญญาก็จะเกิดขึ้น