Page 121 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 121

53
คอื การเหน็ ชดั ถงึ ความเปลย่ี นไป ความตา่ งไป ความไมเ่ หมอื นเดมิ ของอาการของเวทนา ทง้ั ลกั ษณะ อาการเกิดข้ึน ต้ังอยู่ ดับไป ลักษณะผลกระทบท่ีเกิดขึ้นกับจิตใจของเรา ว่าเป็นไปต่างจากเดิมอย่างไร เวทนาท่ีเป็นธรรมชาติ อะไรท่ีเป็นธรรมชาติท่ีบังคับได้ ไม่ได้นั้นเป็นอย่างไร อันนี้คือปัญญาอย่างหน่ึง และการสนใจ การใส่ใจ ถึงความเปล่ียนแปลงความต่างไปของลักษณะการเกิดดับ จะทาให้จิตเราละเอียด ข้ึนแก่กล้าข้ึน สมาธิแก่กล้าขึ้น ปัญญาก็จะเห็นรายละเอีบดมีความเฉียบแหลมมากข้ึน ถึงความเป็นอิสระ ถึงความเป็นธรรมชาติของอารมณ์น้ัน ๆ ถึงความเป็นธรรมชาติของจิต ท่ีทาหน้าท่ีรับรู้อารมณ์ที่กาลังเป็น ไปตามเหตุ ตามปัจจัยของตนอยู่ เพราะฉะน้ันน่ีคืออารมณ์หน่ึงท่ีเกิดข้ึน
ถามว่าเวทนาเหล่าน้ี เกิดข้ึนเฉพาะตอนท่ีเราน่ังกรรมฐาน เกิดขึ้นเฉพาะตอนที่เราปฏิบัติหรือเปล่า เวทนาที่เกิดขึ้นบางครั้งก็อาศัย อุตุ คืออาศัยอากาศที่ทาให้เราเกิดมีความปวดหัว เกิดมีความไม่สบายตัว เกดิ ขนึ้ มาได้ มอี าการแบบนเี้ กดิ ขนึ้ จากอากาศอยา่ งหนงึ่ แตถ่ า้ เมอื่ ไหรท่ เี่ รากา หนดรถู้ งึ ความเปน็ ธรรมชาติ ของเวทนา เหน็ ความเปน็ คนละสว่ น เหน็ ความเปน็ คนละสว่ นกบั เวทนาทเี่ กดิ ขนึ้ เหน็ ความเปน็ จรงิ วา่ เวทนา นั้นไม่มีตัวตนไม่ใช่ของเรา มีแต่ลักษณะอาการที่ปรากฏเกิดขึ้นมา เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เดี๋ยวเปลี่ยนแปลง อย่างนั้น เดี๋ยวเปลี่ยนอย่างนี้ ไม่ใช่ของเรา
เหน็ จติ ทที่ า หนา้ ทรี่ กู้ บั เวทนากแ็ ยกกนั ๆ เหน็ ชดั ถงึ ความไมม่ เี รา ไมใ่ ชข่ องเรา ไมม่ ตี วั ตน บงั คบั ไม่ ได้ มีปัญญารู้ตามความเป็นจริงตรงนั้น เวทนานั้นก็ไม่ทาให้กิเลสเกิดขึ้น เวทนาก็จะทาหน้าที่ของตน จิตก็ ทา หนา้ ทรี่ เู้ วทนาไป หรอื จะวางจติ อยา่ งไรไมใ่ หท้ กุ ข์ ไมใ่ หเ้ กดิ ความทกุ ขก์ บั เวทนาทเี่ กดิ ขนึ้ ความทกุ ขต์ รงนี้ หมายถึงอะไร ความทุกข์ตรงนี้หมายถึงความขุ่นมัว เศร้าหมอง กับเวทนาทางกายที่เกิดขึ้น คือจิตไม่ขุ่นมัว เศร้าหมองกับเวทนาทางกาย ทุกขเวทนาทางกาย ความปวดทางกายที่เกิดขึ้น เพราะนั้นอาการความปวดที่ เกิดขึ้นกับร่างกายจึงเป็นอารมณ์ปกติ เป็นเรื่องธรรมดาของคนเรา เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งของขันธ์ หรือที่ เรียกว่าเป็นขันธ์ ๆ หนึ่งของรูปนาม อันนี้เขาเรียกว่าเวทนาขันธ์ เป็นปกติของบุคคล ของสัตว์โลกที่เกิดมา มีขันธ์ทั้ง ๕ ขันธ์ก็ย่อมทาหน้าที่ของตนตามเหตุปัจจัยที่เกิดขึ้น
เพราะฉะนั้นเวทนา เมื่อกาหนดรู้เวทนาในลักษณะอย่างนี้ ก็จะทาให้จิตมีความสงบ แทนที่จะเกิด ความขุ่นมัว เศร้าหมอง ขัดข้อง อึดอัด ขัดเคืองไป ก็จะทาให้จิตมีเกิดความสงบ แน่นอนว่าเมื่อมีเวทนา แก่กล้า จิตเราก็จะมีอาการ เอ่อ! รู้สึกถูกบีบคั้น แต่ถ้าเราแยกจากกัน แยกชัด ก็จะเกิดมีความตั้งมั่นขึ้น ถึงแม้เวทนานั้นจะแก่กล้า จิตก็จะตั้งมั่นขึ้น ๆ หรือการที่เรายกจิตขึ้นสู่ความว่างได้นี่นะ พอมีเวทนาเกิด ขึ้นมา ทาจิตให้กว้าง ให้ว่าง ให้กว้างกว่าเวทนา จากที่รู้สึกบีบคั้นก็จะกลายเป็นผ่อนคลาย กลายเป็นความ สงบเกิดขึ้นได้ นี่คือการกาหนดรู้เวทนา อันนี้เวทนาทางกาย
เวทนาทางกายถ้าเป็นสภาวธรรมในบางบัลลังก์ หรือบางสภาวญาณก็จะมีแต่อาการคันอย่างเดียว นั่งแล้วคันโน่น คันตรงนั้น คันตรงนี้ คันทั้งตัวนี่นะ มีอาการคัน คันจนทนยาก เหมือนเราสู้ยาก จะไม่เกา เปน็เรื่องยากบางครั้งก็อดไม่ได้ทจี่ะเกาแตพ่อเกาก็จะไมม่ีอะไรแตพ่อเอามือไปสมัผสัอาการคันนั้นกไ็ม่มี อะไร ไม่ได้เกิดจากอาการคันจากพิษต่าง ๆ หรือการแพ้ต่าง ๆ แต่เกิดจากสภาวะ เกิดจากปัญญาที่เห็น


































































































   119   120   121   122   123