Page 124 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 124
56
อารมณ์อื่นปรากฏขึ้นมา มีอาการพระไตรลักษณ์ อาการเกิดดับอย่างใดอย่างใดอย่างหนึ่งปรากฏขึ้นมา ก็รู้ อาการเกิดดับ หรือเข้าไปกาหนดรู้อาการเกิดดับนั้นต่อไป
พออาการเกิดดับนั้นหมด สังเกตต่อว่าอาการเกิดดับนั้น รู้จนหมดไป สภาพจิตใจเปลี่ยนอย่างไร จิตเปลี่ยนเป็นใสขึ้นกว่าเดิมอีก การกาหนดดูจิตนี่ เข้าไปดูจิตที่ใสมากกว่าเดิม ที่ใสขึ้นอีก ดูว่าเปลี่ยนไป อย่างไรต่อ นี่คือการกาหนดรู้ดูอาการ เขาเรียกว่าดูจิตในจิต เรียกว่าดูสภาพจิต ดูในลักษณะอย่างนี้ เรา เรียกว่าดูสภาพจิต จิตที่มีความสงบ จิตที่มีความผ่องใส จิตที่มีความว่าง จิตที่มีความสุขที่กาลังปรากฏ เกิดขึ้น เข้าไปกาหนดรู้ว่ามีอาการเปลี่ยนแปลงอย่างไร จิตที่สุข ที่สงบ ที่เบา ที่ใส ก็ไม่เที่ยง มีความ เปลี่ยนแปลง และดูว่าสภาพจิตตรงนั้น มีความรู้สึกว่าเป็นเราไหม หรือยิ่งรู้ ยิ่งเห็นว่าไม่มีเราแล้ว รู้สึก อย่างไร กาหนดรู้พอจิตมีแต่จิตที่ใส ที่ว่าง ที่เบา ที่สงบ ไม่บอกว่าเป็นเราเลย ถ้ายิ่งเห็นไม่เป็นเรา ยิ่งเห็น ว่าจิตที่ว่าง เบา ไม่บอกว่าเป็นเรา จิตที่ดีแล้ว จิตแบบนั้นให้ความรู้สึกดีอย่างไร ดีมากกว่าเดิม มีกาลังมาก กว่าเดิม จิตที่ดีมีกาลังมากขึ้นกว่าเดิม...อย่างไร นี่คือจุดที่ต้องพิจารณา อันนี้คือการดูจิตในจิต
การทเี่ รารกู้ ารเปลยี่ นแปลงตรงนแี้ หละ คอื ลกั ษณะของสภาวธรรมทไี มต่ อ้ งไปปรงุ แตง่ ไมไ่ ดไ้ ปคดิ ให้เขาเปลี่ยน แต่เข้าไปรู้ถึงการเปลี่ยนแปลง รู้ถึงกฎอาการพระไตรลักษณ์ ที่เป็นธรรมชาติของสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ของรูปนามทุกตัวตนที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเกิดอยู่ที่ไหนก็ยังแสดงอาการแบบนี้ ของใคร...บุคคล ใดก็ตาม ตั้งอยู่ในกฎของไตรลักษณ์แบบนี้อยู่เสมอ มีการเปลี่ยนแปลง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่มีอะไร เป็นของเที่ยง ไม่มีอะไรเป็นของเรา
เพราะฉะนนั้ เราพจิ ารณาตรงนี้ คอื การกา หนดรอู้ าการของรปู นามขนั ธ์ ๕ นนั่ เอง เปน็ รปู ขนั ธ์ เวทนา ขนั ธ์ สญั ญาขนั ธ์ สงั ขารขนั ธ์ วญิ ญาณขนั ธ์ ตวั สภาพจติ เปน็ อะไร ทพี่ ดู ถงึ เวทนา เวทนาทางจติ มเี วทนาทาง กาย เวทนาทางจติ ทอี่ าศยั การเกดิ ขนึ้ ไมว่ า่ จะเปน็ ทางกายทางจติ กจ็ ดั เปน็ เวทนาทเี่ กดิ ขนึ้ ความเปลยี่ นแปลง ตรงนี้จึงเป็นธรรมชาติที่เป็นสภาวธรรมที่เกิดขึ้น ที่ไม่ได้ปรุงแต่ง แต่เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงถึงธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นอยู่ และที่บอกว่ารู้จิตที่เข้าไปรู้ตัวสภาพจิต ตัวรู้ที่จิตที่ไปทาหน้าที่ไปรู้ความใส รู้ความสงบที่มีการ เปลี่ยนไป ก็เหมือนกับจิตที่ทาหน้าที่รู้เวทนา ก็เหมือนกับจิตที่ทาหน้าที่รู้อาการทางกายนั่นแหละ จิตที่ทา หน้าที่รู้มีการเกิดและดับไปกับอารมณ์กับอาการนั้น ๆ ในแต่ละขณะในแต่ละครั้งหรือไม่
นเี่ ปน็ สงิ่ ทโี่ ยคจี ะตอ้ งพจิ ารณาควบคกู่ นั ไปอยเู่ สมอ เพอื่ ไดเ้ หน็ สจั ธรรมความเปน็ จรงิ วา่ อาการของ รูปนามทั้งหมด ของรูปนามขันธ์ ๕ ทั้งหมด ที่เคยเข้าใจว่าเป็นตัวเราของเรา ที่เคยเข้าใจว่าเป็นของเที่ยงนั้น เป็นอย่างไร จะได้เห็นประจักษ์ด้วยตัวเอง ได้เห็นประจักษ์ด้วยตาของตัวเองจริง ๆ ว่า จริง ๆ แล้ว ที่ เราเข้าใจว่ามีตัวตนมีความเป็นเรานี่นะ เป็นแค่เพียงธรรมชาติของรูปนามที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นไปตามเหตุปัจจัยของตน ๆ เท่านั้นเอง อีกอย่างหนึ่งก็คือ เขาเรียกว่าดูจิตในจิต นอกจาก การดูสภาพจิต จิตที่สงบ จิตที่เบา จิตที่ผ่องใส จิตที่ขุ่นมัว จิตที่เศร้าหมอง มีการเกิดดับเปลี่ยนไป
อีกอย่างหนึ่งที่ปรากฏเกิดขึ้นมาบ่อย ๆ และเป็นเรื่องปกติของคนเรา ก็คือเรื่องของความคิด ความ คิดที่เกิดขึ้น ที่เรียกว่าตัวสัญญาขันธ์หรือตัวสังขารขันธ์ อาจารย์เรียก ๒ อย่าง เพราะว่า ๒ อย่างนี้ บางทีก็