Page 154 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 154
86
แล้วเราก็จะรู้สึกว่า โอ! ยิ่งทายิ่งดียิ่งมีความสุข ยิ่งมีกาลัง ยิ่งกาหนดรู้ถึงความไม่มีตัวตนมาก เท่าไหร่ เราจะยิ่งเห็นถึงสัจธรรมนั้นมากขึ้น ไม่อย่างนั้น นิพพานัง ปรมัง สุขัง จะอยู่ที่ไหนล่ะ นิพพาน เป็นสุขอย่างยิ่ง จะสุขได้ไหม เราก็ โอ! ไม่ใช่เห็น ไม่มีคาว่า นิพพานัง ปรมัง อุเบกขา เอ่อ! เห็นไหม นั่น คือ สังเกตว่า คาว่า นิพพานัง ปรมัง สุขัง ท่านกล่าวไว้ ไม่ว่าจะเป็นครูบาอาจารย์ บูรพาจารย์ต่าง ๆ กล่าว ไว้ เป็นสุขแบบไหน นี่แหละ ความอิสระเป็นสุขไหม สุขในแบบของความเป็นอิสระ
เพราะฉะนนั้ การทเี่ ราจะพจิ ารณาธรรมใหแ้ จม่ แจง้ นนี่ ะ จงึ ตอ้ งพจิ ารณาดว้ ยความรสู้ กึ ทไี่ มม่ ตี วั ตน แล้วละอัตตาตรงนี้ ยิ่งเห็นชัดถึงว่า รูปนามไม่มีเรา ไม่ได้บอกว่าเป็นตัวเราของเรา รูป เสียง กลิ่น รส รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ขันธ์ ๕ ไม่บอกว่าเป็นเรา ละความเป็นสักกายทิฏฐิ เพราะฉะนั้น เราต้อง พิจารณาทั้งหมดนี่นะ ไม่ว่าจะเป็นรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ที่เกิดขึ้นนี่นะ ต้องดูว่าอันไหนบ้าง ที่บอกว่าเป็นของเรา รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เรื่องของกาย เวทนา ความสุข ความทุกข์ ความ เจ็บปวด เมื่อย ชา คัน อันไหนบ้างที่บอกว่าเป็นของเรา เป็นตัวเรา เป็นของเที่ยง
สัญญา ความจา ความระลึกได้ เรื่องเก่า ๆ ที่เกิดขึ้นมา เหมือนความคิดที่เกิดขึ้น เที่ยงไม่เที่ยง... ไม่เที่ยง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นของเราไหม เราเป็นคนคิด แต่ก็ไม่ได้เป็นของเราหรอก คิดขึ้นมาแล้ว ก็ดับไป เหตุปัจจัยเกิดก็คิด สังเกตไหมว่า บางครั้งเรานั่งสมาธิ ไม่อยากจะคิดอยากสงบ แต่ก็มาอยู่เรื่อย อยากสงบ ไม่ใช่ของเรา เราพยายามที่จะข่มจิตตัวเองอยู่ ให้อยู่กับปัจจุบัน อยากสงบ เขาก็แทรกมาเป็น ระยะ ๆ เดินจงกรมไปก็แว็บมา ๆ เป็นของเราไหม
แต่เราก็รู้สึกว่า เป็นความคิดเรา ๆ พอห้ามอย่าคิด ๆ ก็เอาไม่อยู่ แล้วก็แว็บมา ๆ เป็นของเราตรง ไหน นี่แหละคือการพิจารณาขันธ์ทั้ง ๕ อันไหนบ้างที่บอกว่าเป็นของเรา อันไหนที่เป็นของเที่ยง แล้วที่แว็บ เข้ามา ค้างอยู่อย่างนั้นตลอดไหม หรือเดี๋ยวแว็บ เดี๋ยวก็แว็บใหม่ ๆ เขาก็หายไป เดี๋ยวก็แว็บใหม่ ที่เหลือ ไว้ คอื รอ่ งรอยแหง่ ความทกุ ข.์ ..ใชไ่ หม เขา้ มาเรอื่ ย ๆ แลว้ กเ็ ปลยี่ นเรอื่ ง แลว้ กท็ กุ ขค์ า้ งอยู่ แตก่ เ็ ปลยี่ นเรอื่ ง ใหม่ ๆ ปรุงแต่งไป ทาให้ความทุกข์เกิดขึ้น
แต่ถ้ากาหนดรู้ ด้วยความรู้สึกที่ไม่มีตัวตน เห็นรู้แล้วดับไป ทุกขเวทนาจะไม่เกิด ถึงเกิดก็ดับง่าย ดับเร็ว แว็บขึ้นมา มีผัสสะ มีเวทนาแล้วก็ดับไป มีผัสสะ มีเวทนาก็ดับไป ๆ ๆ ตรงนั้นแหละ เพื่อละ เพื่อ คลาย แล้วจิตเห็นชัดแบบนี้ เขาจะ...ถึงจะมีเจตนาอย่างที่บอกแล้ว ถึงจะอยากยึด เขาก็ไม่ยึด...ไม่ได้ ถึง จะอยากยึด ถึงแม้เราอยากยึด จิตก็จะไม่ยึด เพราะได้เห็นความจริง ทีนี้การเห็นตรงนี้ ทั้ง ๕ อย่าง ทั้ง ๕ ขันธ์นี่นะ การที่พิจารณาทั้ง ๕ ขันธ์ เป็นสิ่งสาคัญว่า แม้แต่ตัววิญญาณรู้ ตัวจิตที่ทาหน้าที่รู้ วิญญาณขันธ์ เองนี่นะ ก็ไม่ได้บอกว่าเป็นเรา
เหมือนเมื่อเช้า ที่บอกจิตที่ว่าง บอกว่าเป็นเราไหม จิตที่ทาหน้าที่รู้ บอกว่าเป็นเราไหม เพราะเห็น ตรงนี้ชัด จะตัดเรื่องสักกายทิกฐิ เป็นสมุจเฉท สักกายทิฏฐิ ก็คือความเห็นว่าเป็นเรา เป็นของเรา เป็นตัว เป็นตนของเรา ความเข้าใจว่า อันนี้ก็ของเรา อันนั้นก็ของเรา จะถูกตัดไป ๆ จิตจะ...อย่างไรก็ไม่หลง ไปยึด เปน็ ของเรา เหน็ แตอ่ ารมณท์ เี่ กดิ ขนึ้ กา ลงั เปน็ ไปตามเหตตุ ามปจั จยั เปน็ เรอื่ งปกตธิ รรมดาของชวี ติ เมอื่ เกดิ