Page 157 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 157
89
ที่เราอยาก อยาก ๆ ๆ มันควรจะเป็น มันน่าจะเป็นอย่างนี้ มันควรจะเป็นอย่างนั้น กลายเป็นควรจะ น่า จะทั้งหมด แต่ที่กาลังเป็นอยู่แล้วไม่ยอมรับ ทาไม อ๋อ! เขาก็เป็นอย่างนี้ เหมือนสภาวธรรมที่เกิดขึ้นนี่นะ
ทาไม...สังเกตไหมว่า อาจารย์สอน ให้ดูนะ ว่าเขาเปลี่ยนไปอย่างไร สภาวะเปลี่ยนไปอย่างไร จิต เปลี่ยนไปอย่างไร อาการเกิดดับเปลี่ยนไปอย่างไร ไม่น้อย...มากหรอก ทาให้เป็นแบบนี้นะๆ ล็อกผลหมด เลยนะ...นั่นนะ เอ่อนะ! ล็อกผลหมดเลย ว่าต้องเป็นอย่างนี้ถึงจะถูก จริง ๆ เพราะสภาวธรรมนี่นะ มีความ หลากหลายพิสดาร ขึ้นอยู่กับกาลังของสติแต่ละคน สมาธิ ปัญญาแต่ละคน แล้วก็จริตของแต่ละคน และ เขาเรียกอะไร บารมีแต่ละคนที่สั่งสมมาด้วย แล้วก็ปัจจุบัน ความเพียรของแต่ละขณะ แต่ละคนด้วย
เห็นไหม...เหตุที่ทาให้สภาวะแตกต่างกันมีเยอะ เพราะฉะนั้นนี่นะ ให้รู้สภาวธรรมของตัวเอง และ ที่สาคัญก็คือว่า รู้ตัวเองว่าเราปฏิบัติแล้วเราได้อะไร ไม่ต้องเท่าคนอื่น ไม่ต้องเหมือนคนอื่นนะ เราเหมือน คนอื่น แล้วเรียกไม่ถูกเลยด้วยนะ เหมือนเข้าร้านอาหาร สั่งอาหารนี่นะ เหมือนข้าว ๑ จานอย่างนี้...ก็ไม่ ได้ เหมือนเขา ๑ แก้ว อะไรเหมือนเขา ๑ แก้ว ไม่มีชื่อ เห็นไหม เพราะฉะนั้นนี่ รู้ว่า เอ่อ!เราหิว
เราดี จิตเราดีขึ้น สงบขึ้น เห็นสภาวะแบบนี้ เปลี่ยนเป็นแบบนี้ นั่นคืองานของเรา สภาวะของใคร ของคนนั้น เดี๋ยวดี...ถ้าเรารู้ว่าเราพัฒนาขึ้น เราได้ประโยชน์แล้วดีขึ้น นั่นคือสิ่งสาคัญที่สุด เพราะฉะนั้น การเปรียบเทียบกับคนนั้นคนนี้ บางครั้งทาให้จิตเราตก เปรียบเทียบว่า อู้ย!ทาไมเขาปฏิบัติได้เยอะแล้ว ฉันคงอยู่แค่นี้กระมัง ห่อเหี่ยว...ไม่ต้อง แต่ถ้าเปรียบเทียบ โอ!เขาปฏิบัติได้เยอะแล้ว ฉันต้องเร่งแล้วนะ อยู่ไม่ไหวแล้ว อายุมากขึ้น ต้องรีบแล้ว อายุมากขึ้น...เราก็ทาไป แต่ว่าคนที่อายุมากขึ้น ก็ไม่ใช่ง่าย ๆ นะ ต้องใช้เวลาพอสมควร ใช้เวลานั่นแหละ ถึงอายุถึงมากได้ เอ่อ!ข้ามขั้นไม่ได้หรอก เข้าใจขึ้นนะ
เพราะฉะนั้น ปฏิบัติธรรม มีความเพียร พอใจที่จะพิจารณาสภาวธรรม ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าให้ชัด ตามกาลังของเรา มีความเพียร พอใจที่จะกาหนดรู้ อารมณ์ที่ปรากฏขึ้นเฉพาะหน้าของเราให้ชัดเจน ว่า เปลี่ยนแปลงอย่างไร นั่นคือสิ่งที่เราต้องทา ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน กิน ดื่ม ทา พูด คิด ให้มีสติกาหนดรู้ อยู่เนือง ๆ จิต...สติ เราจะได้ต่อเนื่อง สภาวธรรมจะได้ชัดเจน การปฏิบัติธรรมจะได้ก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป
เพราะฉะนั้นวันนี้ การแสดงธรรมมาก็เห็นว่าสมควรแก่เวลา ก็ขอหยุดไว้แต่เพียงเท่านี้ ขอความ เจริญในธรรม จงมีแก่โยคีทุก ๆ คน เจริญพร