Page 198 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 198
130
ความรู้สึกสนุก ยิ่งเคี้ยวยิ่งเพลิน ยิ่งเห็นอาการเห็นจิตดับแล้วจิตยิ่งผ่องใส ยิ่งตื่นตัวขึ้น ตรงนั้นสังเกตดู นี่คือการกาหนดรู้อิริยาบถย่อย นี่คือการยกตัวอย่าง
ทีนี้ อาการอื่นก็เช่นเดียวกัน เยอะแยะมากมายในการหยิบ จับ เคลื่อนไหว จะเปิดประตูห้องนี่ พอ เอื้อมมือไปแตะลูกบิด เขามีอาการดับไปก่อนไหม พอหมุนปุ๊บ อาการหมุนลูกบิดเขามีอาการฟึบเดียว หรือ กึ๊ก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ แล้วก็ดับไป ? อย่างตอนนี้ลองดูสิ เวลาเราหันคอแบบนี้ ค่อย ๆ หัน อาหารเคลื่อนหันไป นี่เขามีอาการขาดเป็นช่วง ๆ ? มีสะดุดเป็นขณะ ๆ ? หรือเป็นเส้นไป แล้วเส้นนี้สุดเขามีอาการดับไปก่อน ไหมก่อนที่จะเคลื่อนไป ? รู้สึกเป็นอย่างไร ? นี่คืออาการเกิดดับของการเคลื่อนไหว เราสังเกตอาการเกิด ดับแบบนี้
เพราะฉะนั้น เวลาเราเดินจงกรมสุด หยุด เราหันปุ๊บเราก็สังเกตอาการนี้ มันมีอาการอย่างไร ? จะ สงั เกตทเี่ ทา้ ทเี่ คลอื่ นไปหรอื ทหี่ นา้ ทเี่ คลอื่ นไปกอ่ นกไ็ ด้ เวลาเดนิ จงกรม ขวายา่ งหนอ ซา้ ยยา่ งหนอ พอหยดุ ปุ๊บ ยืนนิดหนึ่ง แล้วก็ขยับเท้าขวาปุ๊บ เท้าซ้ายตามเป็นจังหวะหันปุ๊บ นั่นคือให้เห็นอาการเกิดดับเป็นขณะ ถ้าเราสังเกตแบบนี้ได้นี่จะเห็นอาการเกิดดับตั้งหลายขณะเลย ปึ๊บ ปึ๊บ ปึ๊บ ปึ๊บ... พอหยุดปุ๊บ นิ่ง แล้วก็มา รู้อาการเดิน พอจะยกเท้า เห็นว่าจิตเขาไปที่เท้าก่อนไหมก่อนที่เขาจะยกขึ้น ? เขามีอาการเกิดดับอย่างไร ? ให้สังเกตแบบนี้ วิธีการกาหนดอิริยาบถย่อย คงเข้าใจขึ้นนะ
คนทอี่ ยไู่ มค่ อ่ ยนงิ่ นอี่ ริ ยิ าบถยอ่ ยจะเยอะ พอนงั่ สมาธไิ ป ไดย้ นิ อะไรกแ็ วบหนั ซา้ ยแวบหนั ขวา เดยี๋ ว ก็เกา เดี๋ยวก็ขยับ เดี๋ยวก็นั่งไม่ติด เดี๋ยวบิด เดี๋ยวโยก... นั่นคืออาการของอิริยาบถย่อย ลองดู รู้ให้ทัน รู้ ให้ทัน มันจะขยับแล้วนะ มันจะกระพริบตา จะหาวแล้วนะ บางคนหลับแบบไม่หาวเลย นั่ง ๆ แล้วก็ง่วง หลับไปเลย ไม่หาว แต่บางคนยิ่งหาวยิ่งตื่น ก็งงอีก ทาไมเดิน ๆ แล้วมันหาวเอา หาวเอา!? ง่วงไหม ? ไม่ ง่วง แต่หาว มีนะนักปฏิบัติเดินจงกรม เดินไปหาวไป เดินไปหาวไป... ก็งงตัวเอง ฉันไม่ง่วง แต่ทาไมหาว ได้หาวดี!?
สังเกตว่า เวลาเราหาว อะไรออกมา ? ลม ใช่ไหม ? ธาตุลม ขับลมออก ขับลมออก แล้วก็ตื่นขึ้น พอหาวเสร็จจิตก็จะตื่น กาหนดอาการต่อไปได้ แต่ตอนหาวก็ไม่รู้สึกง่วงนะ แต่พอถึงเวลาง่วงจริง ๆ นั่งไป ไม่หาวเลย หลับ! เห็นไหม หลับเพราะสมาธิเยอะ สติอ่อน บางครั้งสติสมาธิก็ไม่ค่อยมีหรอก สติอ่อนมาก ๆ จนหลับ หลับทั้ง ๆ ที่ยุ่งอยู่ หลับทั้ง ๆ ที่วุ่นวาย เขาเรียกเพลียจนหลับไป เพราะฉะนั้น ลองสังเกตดู
เปา้ หมายของการกา หนดแบบนเี้ พอื่ อะไร ? การปฏบิ ตั ธิ รรมจะใหด้ คี วรจะมสี ตติ อ่ เนอื่ งกนั เปน็ ลกู โซ่ คาว่า “เป็นลูกโซ่” คือไม่ขาดตอน ไม่มีช่องว่าง ช่องสะดุด เพราะฉะนั้น เวลาเราปฏิบัติไปแล้วรู้สึกหลุดบ้าง ก็รู้ให้เร็ว แต่บางคนพอปฏิบัติมากขึ้น สติเริ่มดีขึ้น เริ่มเห็นว่าตัวเองหลุดบ่อยขึ้น แล้วรู้สึกว่า เอ๊! ทาไม เดี๋ยวหลุด ๆ เดี๋ยวเผลอ ๆ ก็เริ่มหงุดหงิดกับตัวเอง แต่นั่นคือสติเขาเริ่มดีขึ้น เริ่มเห็นว่าเวลาตัวเองเผลอ เป็นอย่างไร ก่อนหน้านั้นเผลอไปตั้งนานแล้วยังไม่รู้สึกตัวเลย ตอนนี้พอเริ่มเผลอก็รู้ เริ่มเผลอก็รู้ แสดงว่า สติไวขึ้น ๆ เพราะฉะนั้น จงภูมิใจ อย่าวิตกกังวล ให้เริ่มใหม่ให้เร็วขึ้น เริ่มใหม่เร็วขึ้น พอใจที่จะเริ่มใหม่ แล้วต่อไปสติเราก็จะมีความต่อเนื่องได้ดีขึ้น