Page 241 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 241
173
ก็เหมือนกับเรามีความทุกข์ขึ้นมา แล้วเราดับได้ พอดับได้แล้ว ต้องทาอย่างนี้ ดับได้ ดับได้ ดับไป เลย แล้วถ้าดับได้บ่อย ๆ ต่อไปนี่นะเป็นอย่างไร ถ้าอย่างนั้นการดูอาการเกิดดับตรงนี้ สังเกตอีกอย่างหนึ่ง พอเหน็ อาการดบั จติ ดบั เหน็ อาการดบั จติ ดบั จติ ดวงใหมเ่ กดิ ขนึ้ ทา ไมใสขนึ้ สะอาดขนึ้ ทงั้ ๆ ทยี่ งั ไมป่ รงุ แตง่ อาการนี้ดับ จิตดับไป อาการที่เกิดขึ้น ก็ยังไม่ปรุงแต่งเลย จิตดวงนี้ก็ไม่ปรุงแต่ง แต่พอดับเสร็จแล้ว จติ ดวงใหมก่ ลบั ใสขนึ้ ดบั ใหมก่ ลบั ใสขนึ้ โลง่ ขนึ้ สบายขนึ้ กวา่ เดมิ ตรงนเี้ ขากไ็ มไ่ ดบ้ อกวา่ มกี เิ ลสอะไรเลย แต่ทาไมใสขึ้นได้ อันนี้ต้องสังเกตนะ
ต้องสังเกตว่ารู้อาการเกิดดับ ไม่ใช่แค่รู้แล้วดับไป ๆ มีเศษ ไม่มีเศษ ต้องรู้...ผลที่ตามมา ตรง ผลที่ตามมาด้วยว่าดีอย่างไร ทีนี้ แล้วอิริยาบถย่อยล่ะ อาการพวกนี้เกิดขึ้นเหมือนกันไหม อาการเกิดดับ ในอิริยาบถย่อยกับอิริยาบถหลัก ไม่ต่างกันเลย ความเท่าเทียมกัน ขึ้นอยู่กับกาลังของสติ สมาธิ และ ปัญญา ณ ขณะนั้น ๆ สติ สมาธิ และปัญญาแก่กล้าขนาดไหน อาการเกิดดับก็จะเป็นแบบนั้น อย่างเช่น ยกตัวอย่าง เวลาเราเดิน เดินเร็ว ๆ เดิน ๆ ไป เดินอยู่ในความว่าง เดินอยู่ในความว่าง มีบรรยากาศของ ความว่างรองรับ
เดิน ๆ ๆ ๆ ไปแล้ว ตอนแรก ๆ อาการของรูปมี มีรูปชัดเจน มีตัว มีเท้า มีขา พอเดินไปสักพัก ตัว เริ่มหาย ๆ ๆ จิตมีความสงบขึ้น มีความตื่นตัวขึ้น มีความใสขึ้น รูปหายไป ถามว่ารูปหายตอนนี้ ต่างจาก ตอนนั่งไหม...ก็ไม่ต่าง ต่างตรงที่ว่าจิตตื่นตัว แต่ถ้าตอนนั่งนี่นะ ถ้ารูปหาย สติหายด้วยก็มี หายเพราะหลับ แต่ถ้าสติดี รูปหาย รู้สึกว่า...มาสารวจดูที่รูป รูปไม่มี มีแต่ความว่างเปล่า แต่รู้สึกนั่งนิ่ง ตั้งมั่น รูปว่างเปล่า อยู่ อาการที่เราเดินแล้วตัวหายไป อันนี้ คือสภาวธรรมเกิดเหมือนกัน
แลว้ เวลาเราเดนิ อาการเกดิ ดบั ของอาการเดนิ แตล่ ะกา้ ว ๆ ทสี่ งั เกต มงุ่ ไปแลว้ ดบั หาย ๆ ๆ เทา้ หาย ไป ตัวหาย เท้าหาย เหลือแต่อาการเกิดดับที่ปรากฏขึ้นมาข้างหน้า หรือข้างในความรู้สึกในความว่างนั้น มี แต่วึบหาย ๆ ๆ ๆ เกาะติดอาการนั้นไป นั่นคือไม่ต่างกับที่เรานั่ง แล้วมีอาการเกิดดับในความว่าง ความ สงบนั้นมันปึ๊บ ๆ ๆ ๆ พุ่งขึ้นมาหรือพุ่งออกไป ๆ เพราะฉะนั้น อิริยาบถย่อยเป็นสิ่งที่สาคัญมาก ๆ ถ้าเรา อยู่ในอิริยาบถย่อยเยอะ ในชีวิตประจาวัน ไม่ค่อยมีเวลาได้นั่งกรรมฐาน ดูสภาพจิต มีบรรยากาศรองรับ
ทีนี้เวลากาหนด อยากให้โยคีกาหนดแบบนี้ เวลากาหนดอาการในอิริยาบถย่อย ขอให้ชัดสักนิด หนึ่งว่า ขณะนี้กาหนดอาการเกา ไปรู้อาการเกา ๆ ๆ แล้วเขามีอาการแบบนี้ อันนี้ยกตัวอย่าง พออาการเกา เสร็จ สังเกตอาการเกา เกาไม่ถูกศีรษะ เกาไม่ถูกตัว เกาถูกแค่อาการว่าง ๆ เกาถูกความว่าง แต่อาการคัน หายนะ แต่คือรู้สึกสัมผัสรูป แต่ไม่มีรูป เพราะเรารู้ถึงอาการสัมผัสเขาจะมีเวทนา มีจุดกระทบ จุดกระทบ อันนั้นที่เราเกานี่นะ ไม่ใช่ว่าเขาจะเป็นทึบ ๆ ทั้งหมด
สังเกตนะ เวลาเราเกานี่นะ ถ้าไม่อย่างนั้น เขาจะมีอาการทึบ ๆ เป็นรูป เป็นเส้นหนา ๆ แต่บางขณะ ถา้ สตมิ กี า ลงั มากขนึ้ รปู นที้ วี่ า่ งไปหายไป อาการเกาอาจจะกลายเปน็ มเี สน้ ใส ๆ เคลอื่ นไปใส ๆ แลว้ หาย ใส แล้วเคลื่อนไปบาง ๆ แล้วก็เกา แล้วก็หาย ๆ ไป แต่มีความชัดเจนในตัว นั่นคือมีความชัดเจน การสังเกต ตรงนี้ พอสังเกตอาการเสร็จ ถ้าเรารู้ รู้ชัดแบบนี้ แล้วเปลี่ยนไป...แป๊บเดียว พอจะกะพริบตา รู้สึกว่าอาการ