Page 245 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 245

177
เอาจิตที่ว่าง แทนที่จะเป็นว่าง ๆ อย่างเดียว จิตที่ว่างแล้วมีความสุขในตัว มีความสุข มีความนุ่มนวลเข้าไป แล้วเคี้ยว เคี้ยวถูกทั้งอาหาร เคี้ยวถูกความนุ่มนวล เคี้ยวถูกความสุข แล้วกลืนเข้าไปพร้อมกัน แล้วกลืน ไปด้วยกัน รสชาติอาหารนี้ไม่สาคัญเลย กลายเป็นว่าเหลือแต่สาระของอาหาร คือประโยชน์ของอาหารที่ รับเข้าไป
ที่เราสนใจ แล้วเคี้ยวถูกความสุข กลืนเข้าไป กลืนความสุขเข้าไป ที่บอกได้ ๒ อย่างคือ จิตเขามี พลังขึ้น รูปก็แข็งแรง มีความสุขขึ้นมา เคี้ยวอย่างละเอียด เคี้ยวด้วยความสุข เคี้ยวไป ๆ เคี้ยวถูกความสุข แล้วกลืนความสุขลงไปในตัว ไปในใจ ไปในท้องของเรา ลองดูสิ ถ้าเรากลืนความสุขลงไปเรื่อย ๆ นี่นะ รูปนี้รู้สึกเป็นอย่างไร ทาให้ความสุขนี้ เต็มทั้งข้างใน เต็มข้างในรูปเรา แล้วก็ล้นออกมาได้ ความสุขเต็มข้าง ในรูป ล้นจากรูปได้ อาหารล้นรูปไม่ได้ ล้นรูปไม่ได้หรอก ถ้าล้นก็น่าดูแหละ
เพราะฉะนั้น ในการที่เรากาหนดรู้แบบนี้ การกาหนดรู้อาการอิริยาบถย่อย เป็นสิ่งสาคัญ ประโยชน์ เกิดขึ้นมากมาย การกาหนดแบบนี้ จิตก็อยู่กับสมาธิ เขาเรียกมีความสารวมในตัว เราจะมีการสารวมกาย แล้วก็สารวมสายตาของเรา เวลาตัก...จะยกขึ้นตักไปแต่ละครั้ง มีสติรู้ เข้าปาก เคี้ยว กลืนเข้าไป ก็มีสติ กาหนดรู้ตามอยู่เนือง ๆ เวลาจะหันซ้ายหันขวา ถ้าทา...ลองสังเกตดู ถ้ากาหนดแบบนี้ อากัปกิริยาอาการ ของเรา จะมีความสารวมระวัง มีความสารวมระวัง
พอมีความสารวมระวัง ทั้งสติ สมาธิ และปัญญาก็เกิดขึ้นมา ไม่ใช่แค่เราระวัง หรือแค่มีสติรู้อยู่กับ ปจั จบุ นั สงั เกตไหมวา่ ทพ่ี ดู ขนึ้ มาทงั้ หมดนนี่ ะ ไมไ่ ดเ้ นน้ วา่ แคม่ สี ตริ อู้ ยกู่ บั ปจั จบุ นั อยา่ งเดยี ว แตม่ สี ตริ อู้ ยู่ กับอารมณ์ปัจจุบัน พร้อมกับมีปัญญาพิจารณาถึงอาการพระไตรลักษณ์ ของอารมณ์ปัจจุบันของอิริยาบถ ณ ขณะนนั้ ๆ ทเี่ กดิ ขนึ้ มา พรอ้ มกบั สงั เกตวา่ ขณะทกี่ า หนดรตู้ รงนี้ ผลทตี่ ามมาคอื สภาพจติ ใจเปน็ อยา่ งไร ส่งผลต่อจิตเป็นอย่างไร ไม่ใช่แค่ฉันรู้ปัจจุบัน แล้วรู้...เดี๋ยวหลุด ๆ ทาได้แป๊บเดียว เดี๋ยวก็หลุด...ไม่ใช่
การกาหนดรู้แบบนี้ ถึงแม้จะเผลอไปหลุดไป เผลอไปมีอารมณ์จรแทรก เผลอไปคิดนิดหนึ่ง กลับ มาใหม่ มีเจตนาใหม่ เจตนาที่จะกาหนดอารมณ์ปัจจุบันใหม่ให้ชัดขึ้น ถ้าอารมณ์จรแทรกเข้ามา หรือหลุด ออกไป นิดหนึ่งนะ เวลาอารมณ์จรแทรกเข้ามา หรือจิตเราหลุดจากอารมณ์ จากอารมณ์ปัจจุบันไปนิดหนึ่ง หลุดไปแล้วอกุศลไม่เกิด ถ้าหลุดออกไปแว็บเดียว อกุศลไม่เกิด ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องหงุดหงิดกับที่เขา หลดุ หรอก ใหเ้ รมิ่ ตน้ ใหมท่ นั ที พอใจทจี่ ะยกจติ ใหม่ กา หนดใหมอ่ ยา่ งเดยี ว ถงึ จะหลดุ บา้ ง เปน็ เรอื่ งธรรมดา เพราะว่าเราอยู่ในขั้นตอนของการปฏิบัติ เราอยู่ในเส้นทาง
เป็นผู้ปฏิบัติอยู่นี่นะ ถ้าใครไม่หลุดเลย หายากนะ หายาก ก็คงไม่มีแหละ เพราะไม่เคยเห็น ก็จะ มีหลุดเป็นระยะ ๆ สักพัก พอสติมีมากขึ้น บางทีโยคีเกิดสติไวขึ้น จิตตั้งมั่นขึ้น สติแก่กล้าขึ้น ก็รู้สึกว่า วนั นไี้ มห่ ลดุ เลย ทงั้ วนั เลย มสี ตริ ตู้ น้ จติ ตลอดเวลา รอู้ าการอริ ยิ าบถยอ่ ยตลอดเวลา แทบจะตอ้ งไมพ่ ยายาม กาหนดเลย เขาทางานของเขาเอง รู้สึกตรงนั้นจะเกิดขึ้น มีไหม...มีนะ เป็นลักษณะของสภาวธรรม หรือ สภาวญาณอย่างหนึ่ง


































































































   243   244   245   246   247