Page 348 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 348

280
จิตให้ว่างนี่แหละ บางคนบอก เอ้า! ยกจิตขึ้นสู่ความว่างทาได้แล้ว คิดว่ามันจะว่างตลอดไม่หุบแล้ว เหมือนขยายจิตให้ว่างให้กว้าง มันกว้างได้แล้ว โอ! ทาได้แล้วอยู่แล้ว ฉันทาได้แล้ว หันหลังให้แป๊บเดียว... หุบ แป๊บมาอยู่ที่เดิม ทีนี้นึกว่ายังว่างอยู่ พอเพลิน ๆ เอ๊ะ! ทาไมมันไม่กว้างเหมือนเดิมแล้ว พอขยายอีก... ทาไม่ได้
จริง ๆ แล้ว ต้องทาซ้า ๆ ถ้ารู้สึกเริ่มมันชัด มันดีขึ้นต้องทาซ้า อาการอะไรก็ตาม พอเรากาหนด รู้แล้ว เห็นว่าดีขึ้น ขยับนิดหนึ่งเห็นการเปลี่ยนรู้สึกดีขึ้น ทาซ้า ๆ ๆ ๆ จนกว่าเขาจะชัด จนที่เราไม่มีความ สงสัยในสภาวธรรมที่เกิดขึ้น ไม่สงสัยในอาการที่เกิดขึ้น ตรงนี้แหละเขาเรียกว่าตัดวิจิกิจฉา ความลังเล สงสัยในธรรมนั้น ๆ ว่าเป็นจริงไหม ว่าคิดเอาเองไหม เรามโนเองไหม จะได้เห็นชัด ๆ เอ่อ! มันเบาจริง ไหม ว่างจริงไหม
คนที่ได้คือเราไม่ใช่คนอื่น อาจารย์สอนอาจารย์บอก โยคีตอบถูก แต่ถ้าทาไม่ได้ ก็คือไม่ได้อะไร ตอบถูกนะ แต่ทาไม่ได้ก็คือไม่ได้ ไม่ใช่อาจารย์ได้ ตอบถูกแล้ว พอบอก เอ่อ! มันเป็นอย่างนี้ ๆ แต่ตัวเอง เฉย ๆ แสดงว่า เราพูดตามความรู้สึก หรือพูดตามความคิด บางครั้งพูดตามความคิด คิดว่าเข้าใจแล้ว ถ้า ทาได้มันต้องเป็นอย่างนี้ เลยตอบว่า มันเป็นแบบนี้ แต่สภาวะจริง ๆ นะไม่เป็น แต่สภาวะจริง ๆ ไม่เป็น ดูออกนะ ดูออกเวลาโยคีทาได้ไม่ได้นี่นะ เล่ามา โอ้โห! เล่าแบบมันสุขมากเลย แต่หน้านิ่วคิ้วขมวดนี่นะ มันไม่ได้ มันขัดแย้งกันในตัว แบบว่ารู้สึกทุกข์มากเลย แล้วยิ้มตลอดเวลา มันก็ เอ๊ะ! ทาไมล่ะ
บางคนไม่รู้สึกไม่รู้สาเลย ไม่เห็นสุข ไม่สุขไม่ทุกข์แต่ขา หัวเราะยิ้มตลอด ถามว่าคนจะยิ้มนี่นะสุข หรอื ทกุ ข์ ไมม่ ใี ครทกุ ขแ์ ลว้ ยมิ้ หรอก นอ้ ยมาก เจอความทกุ ขแ์ ลว้ ยมิ้ ขณะทยี่ มิ้ จติ จะไมท่ กุ ข์ ขณะทที่ กุ ข.์ .. ถ้าจิตทุกข์นี่นะไม่ยิ้ม จะยิ้มไม่ได้ ทุกข์กายแต่จิตไม่ทุกข์ จิตก็ยิ้มได้ มันปวดทางกาย เขาเรียกทุกข์กาย ปวดมากเลย ที่ร่างกายปวดมากเลย แต่จิตไม่ได้วิตกกังวลกับความปวด ก็ยังยิ้มได้ นั่นคือกายทุกข์จิต ไม่ทุกข์ แต่ถ้าเมื่อไรจิตทุกข์นี่นะยิ้มยาก ยิ้มไม่ได้หรอก ไม่มีใครยิ้มได้ เพราะนั่นคือเป็นวิถีจิตดวงหนึ่งที่ เกิดขึ้น มันจะเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน เพียงแต่ว่าใครจะสังเกตได้ละเอียดมากแค่ไหน แม้แต่คนที่ชอบอะไร รุนแรง...จะยิ้ม คือสะใจ ถูกใจ ดีใจ มีความสุขกับสิ่งที่ทาแล้วก็ยิ้มได้ แต่อย่ายิ้มนาน ยิ้มไม่นานนั้นอีก เรื่องหนึ่ง
แตธ่ รรมะนนี่ ะ การปฏบิ ตั ขิ องเรา พอเรามคี วามสขุ การทเี่ รามคี วามสขุ แลว้ ยมิ้ ได้ ใหก้ วา้ ง สขุ ทเี่ กดิ จากธรรมะ สุขที่เกิดจากจิตที่ว่าง สุขที่เกิดจากจิตที่ไม่มีตัวตน และจิตที่เป็นกุศล จะเป็นความสุขที่พร้อม ที่จะแผ่ ที่จะกว้าง ที่จะให้ ที่บอกเสมอว่า เมื่อไหร่ที่ความสุขเราเต็มทั้งตัว มันจะล้นออกไป มันพร้อมที่ จ ะ ใ ห ้ อ ย า ก ใ ห ค้ น อ นื ่ ม คี ว า ม ส ขุ ด ว้ ย อ ย า ก จ น ค น อ นื ่ อ ดึ อ ดั ก ม็ ี อ ย า ก ใ ห เ้ ข า ม คี ว า ม ส ขุ จ น เ ข า อ ดึ อ ดั ห ม ด แ ล ว้ บางทีอยากมาก เขายังไม่เห็น ก็คือว่าวิธี จึงต้องสังเกต
ทนี เี้ วลาเราเดนิ จงกรม เวลาเดนิ จงกรม ขณะทสี่ งั เกตอาการเกดิ ดบั ไป กอ่ นทจี่ ะเดนิ จงกรม เวลายนื ยืนนิ่ง ๆ ยืนทาตัวนิ่ง ๆ ทาใจนิ่ง ๆ ยืนนิ่งนิดหนึ่งแล้วก็สังเกต ทาใจให้ว่าง ให้กว้าง ทาใจให้ว่างให้กว้าง ให้ มีบรรยากาศรองรับสักนิดหนึ่งก่อน ทาไมถึงนิ่งแล้วทาใจให้กว้าง จริง ๆ แล้ว เป็นการนิ่ง ยกจิตขึ้นสู่ความ


































































































   346   347   348   349   350