Page 492 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 492

424
ทั้งหมดนี่นะ พอสภาวะนี้เกิดขึ้น เขาจะเห็นชัดถึงความไม่มีแก่นสาร สาระ สิ่งที่อยู่รอบตัวทั้งหมด ที่เคย ยินดีพอใจทั้งหมด ไม่มีอะไรที่มีคุณค่า...มีคุณค่าพอที่จะไปยึดได้เลย จะเป็นของว่างเปล่า แล้วก็เป็นอยู่ อย่างนั้น ไม่มีอะไรพิเศษสาหรับชีวิตอีกต่อไป ตรงนั้นแหละคือ ความเห็นถึงสัจธรรม
เพราะฉะนั้น สิ่งที่ปรารถนาจริง ๆ คืออะไร อยากจะเดินทางไปสู่เป้าหมาย เพื่อความดับทุกข์อย่าง สิ้นเชิง ตรงนี้แหละ พอเจอแบบนี้ ทาอย่างไรถึงจะเดินทางต่อไปได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความหวาดกลัว ความเบื่อ ความแห้งแล้ง ความห่อเหี่ยว ที่เกิดขึ้นภายในจิตใจนี่นะ นั่นเป็นอารมณ์ เป็นสภาวธรรมอย่าง หนึ่งที่เกิดขึ้น ไม่ต้องคล้อยตาม ไม่ต้องไปนั่งห่อเหี่ยวนาน ให้มีสติเข้าไปกาหนดรู้ แม้แต่ความห่อเหี่ยว ความหวาด ความแห้งแล้ง ก็ไม่เที่ยง เพราะเป็นจิตดวงหนึ่งที่เกิดขึ้น เขาเรียกว่ามีอารมณ์แบบนี้เกิดขึ้น
เพราะฉะนนั้ ผปู้ ฏบิ ตั ถิ า้ อยากละ กต็ อ้ งละ แมแ้ ตค่ วามรสู้ กึ อนั นี้ ไมใ่ ชเ่ อาความรสู้ กึ อนั นี้ เบอื่ เอาไว้ เห็นใครก็เบื่อหมด เห็นลูกเห็นหลานก็เบื่อหมด ไม่สุขเลย อันนี้เป็นจริง ๆ ไม่จาเป็นต้องเป็นเรา ดับ...ดับ ความเบื่อเหลือความสงบ ดับความเบื่อเหลือปัญญา เรารู้แล้วเข้าใจแล้ว ให้ดับ มีสติเข้าไปกาหนดรู้ ถึง การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ดับไป จากนั้นจิตก็จะผ่องใสขึ้นเรื่อย ๆ จิตจะคลายไป จิตจะมีความผ่องใสมาก ขึ้น มีความอิสระมากขึ้น ต่อไปเขาก็ไม่จาเป็นต้องเบื่อ ก็ไม่ยึด เห็นไหม จิตจะเข้าไปกาหนดรู้ ถึงความ เปลี่ยนแปลงตรงนี้ ก็จะคลาย ๆ มีความสงบ มีความตั้งมั่น
พอเจออุเบกขา ทุกอย่างก็เฉยอีก เห็นไหม เขายังไม่สุขทีเดียว แต่ก็รู้สึกว่า เอ่อ! สงบนิ่ง ตรงนั้น เพราะฉะนั้น นี่คือสภาวธรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้น การกาหนดรู้แบบนี้นี่แหละ ตามขั้นตอน ตามสภาวธรรมที่ เกิดขึ้น เรามีสติกาหนดรู้อารมณ์ อาการพระไตรลักษณ์ อาจารย์พูดนี่นะ พูดกว้าง ๆ นะ พูดภาพรวม พูด กว้าง ๆ ยังมีรายละเอียดที่พิเศษ ทาให้จิตเรารู้สึกพิเศษมาก ๆ เรารู้สึกดีกับตัวเองมาก ๆ เลย สภาวะนั้น ก็ยังมีอยู่ ยังเกิดขึ้นอยู่
อาจารย์พูดเฉพาะจุดที่โยคี...เวลาเกิดขึ้นแล้วใจไม่ดี เกิดขึ้นแล้วบางครั้งรู้สึกว่า เราไม่มีวาสนา เราไม่มีปัญญา เราไม่มีบารมี คงได้แค่นี้แหละ หยุด พอแล้ว ไม่ปฏิบัติต่อหรอก กลายเป็นแบบนั้นไป คือ ให้รู้ว่า นี่คือสภาวธรรมอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องปกติธรรมดา เพราะถ้าเป็นสภาวธรรม สิ่งที่ต้องทาคือ อะไร ก็รู้ตามปกตินั่นแหละ มีสติกาหนดรู้ถึงการเกิดข้ึน ตั้งอยู่ ดับไป เดี๋ยวเขาก็ผ่านไป
ความหวาด อยา่ งทบี่ อกวา่ ความวงั เวง ความหวาด ตรงนี้ ถา้ มสี ตริ ถู้ งึ การเกดิ ดบั ไปเรอื่ ย ๆ ความกลวั สงิ่ ตา่ ง ๆ จะหายไป ไมว่ า่ จะเปน็ กลวั ผี กลวั อะไรกต็ ามนนี่ ะ ความกลวั อะไรกจ็ ะหายไป ความอาจหาญในใจ จะเกดิ ขนึ้ โดยปรยิ าย เพราะอะไร การทกี่ าหนดรถู้ งึ อาการเกดิ ดบั อยา่ งนมี้ าก ๆ เหน็ ชดั คอื การละความเปน็ ตัวตน เป็นเรา ไม่มีเราเมื่อไหร่ ความกลัวก็น้อยหรือไม่เกิดขึ้น มีเราเมื่อไหร่ ความกลัวก็เกิดขึ้นมา เพราะ ฉะนั้น การกาหนดรู้อาการเกิดดับตรงนี้แหละ ถ้าอยากจะละ อยากตัดวัฏสงสาร ให้พอใจเข้าไปกาหนดรู้
เราเจริญวิปัสสนากรรมฐานแบบนี้ พิจารณาอาการพระไตรลักษณ์ การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ของ ทุก ๆ อารมณ์ให้มากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ กาหนดรู้ในทุกอิริยาบถ ทุก ๆ อิริยาบถ ถ้าไม่อยากไปเกิด


































































































   490   491   492   493   494