Page 529 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 529

461
กาย เรื่องของจิต สิ่งที่ทาให้เราทุกข์ ก็เรื่องของกาย เรื่องของจิต เรื่องของขันธ์ทั้งหมด ทาให้เราสุข ก็เรื่อง ของกาย เรื่องของจิตนี่แหละ
การที่เราไม่ทุกข์กับสิ่งต่าง ๆ ละทุกข์ได้ ก็อาศัยการกาหนดรู้ ความเข้าใจในความเป็นไป ของรูป นาม ขนั ธ์ ๕ เรอื่ งของกาย เรอื่ งของจติ คลายอปุ าทานเมอื่ ไหร่ ทา อยา่ งไรจติ ไมถ่ กู ครอบงา ดว้ ยโมหะ การที่ เรากาหนดรู้แบบนี้นี่แหละ ปัญญาจะมีความชัดเจน ปัญญาแก่กล้าขึ้น เห็นชัดมากขึ้น จิตก็จะมีความอิสระ ขึ้น ที่เรียกว่าไม่ถูกครอบงา ไม่ถูกครอบงาด้วย โลภะ โทสะ โมหะ เพราะฉะนั้นการดูจิต อารมณ์ทางจิตที่ เกิดขึ้น พอมีความขุ่นมัวเศร้าหมอง กาหนดรู้ได้เลย กาหนดว่าเกิดดับอย่างไร
การที่เราสนใจการเกิดดับตรงนี้ ต่อไป สติ สมาธิ ปัญญา ได้เกิดขึ้นมาและรู้ เมื่อจิตเรามีปัญญา เกิดขึ้นแล้วก็จะสนใจ เขาจะไม่ยึดเอาว่า ความทุกข์เกิดขึ้นมา ความไม่สบายใจเกิดขึ้นมา จะไม่เก็บไว้นาน มสี ติ สตจิ ะทา หนา้ ที่ เขา้ ไปกา หนดรวู้ า่ เกดิ ดบั ไป มแี ลว้ หมดไป มแี ลว้ หายไป กอ่ นทจี่ ะปรงุ แตง่ ไป เตลดิ ไป ไกล ทาให้จิตใจถ้าไปหลง มีความขุ่นมัว สร้างกรรม เป็นมโนกรรมในฝ่ายอกุศลยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพราะฉะนั้น การกาหนดรู้อาการพระไตรลักษณ์ของจิต การดูจิตในจิต เวลามีความทุกข์เกิดขึ้น กาหนดอย่างนี้ ความ ทุกข์จะหมดไป
ในขณะเดียวกัน เวลาจิตที่เป็นบุญ เป็นกุศลหรือมีความอิ่มใจ มีความสุขเกิดขึ้น พอมีสติเข้าไปรู้ ยงิ่ ตามกา หนดรเู้ ทา่ ไหร่ จติ ยงิ่ มคี วามผอ่ งใส ยงิ่ มคี วามโลง่ มคี วามโปรง่ มคี วามเบกิ บาน มคี วามสวา่ งมาก ขึ้นเรื่อย ๆ นั่นคือการดูจิตในจิต ขณะที่เราเห็นว่าจิตมีความโล่ง ความโปร่ง ความเบา ความสว่าง มีความ เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ นั่นคือความไม่เที่ยง เขาเรียกดูความไม่เที่ยงของจิตเอง รู้ถึงความเปลี่ยนแปลง และพอ เห็นการเปลี่ยนแปลง ถามว่าจิตเราจะไปยึดอะไร ยิ่งเปลี่ยนไป ยิ่งเห็นดีกว่าเดิม จะยึดอะไร ก็จะเป็นอิสระ มากขึ้นเรื่อย ๆ
เพราะฉะนั้น การดูจิตในจิตตรงนี้ เวลาเราดูจิตในจิต ไม่ใช่รู้แต่ว่าคิดอะไร เรารู้ผลของความคิด นั้นด้วย ที่เกิดขึ้น คิดแล้วจิตใจเป็นอย่างไร บางครั้งไม่คิด ไม่เกี่ยวกับความคิด ไม่มีความคิด อย่างเช่น เวลาเรานั่งกรรมฐาน ไม่มีความคิด ไม่มีลมหายใจ ไม่มีเวทนาอะไรเลย มีแต่ความสงบอย่างเดียว เหลือ แต่ความสงบ มีแต่ความสงบ มีแต่ความเงียบ มีแต่ความนิ่ง นั่นคือลักษณะของจิตอย่างหนึ่ง ตรงนี้แหละ เข้าไปดูจิตที่สงบ จิตที่เงียบ จิตที่นิ่ง ว่ามีความเปลี่ยนแปลงอย่างไร ตรงนั้นคือ การดูจิตในจิต
เหลอื แตด่ ลู กั ษณะของจติ ทปี่ รากฏ ไมม่ อี าการเวทนา ไมม่ คี วามคดิ ไมม่ ลี มหายใจ ไมม่ อี าการเตน้ ของหัวใจ อารมณ์เหล่านี้ว่างไปทั้งหมด เหลือแต่จิตที่สงบเงียบ ความสงบเงียบก็มีการเปลี่ยนแปลง เพราะ จิตมีความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ การที่จะทาให้...จากจิตที่มีความสงบเงียบ แล้วพัฒนาต่อไปได้ ต้องอาศัย การกาหนดรู้ ถึงความเปลี่ยนแปลงตรงนั้นอีก เราจะรู้ได้เลยว่า สงบเงียบแล้ว พอหรือยัง ดีที่สุดหรือยัง เราจะรสู้ กึ วา่ สบาย แตว่ า่ ยงั มอี ะไรตอ้ งทา ถา้ รสู้ กึ วา่ ยงั พฒั นาไดม้ ากกวา่ นี้ เราจะไปอยา่ งไร ใหด้ จู ติ ดเู ขา้ ไป ในจิตที่สงบ ที่เงียบนั้นอีก ว่าเขามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ลึก ๆ แล้วมีอะไร มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ต่อไป อันนี้คือการดูจิตในจิต อีกอย่างหนึ่ง


































































































   527   528   529   530   531