Page 546 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 546

478
เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ของทุก ๆ อารมณ์ ตามหลักของวิปัสสนา เขาเรียกว่า ตามกาหนดรู้อาการ ของ อนิจจลักษณะ ทุกขลักษณะ อนัตตลักษณะ ลักษณะของความเป็นธรรมชาติ ที่เปลี่ยนไปเสมอกันแก่ สังขารทั้งปวง
ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ภายนอกหรือภายใน ไม่ว่าจะเป็นอาการทางกายหรือทางจิต ไม่ว่าจะเป็น อาการไหนก็ตาม ที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมอยู่ในกฎไตรลักษณ์แบบนี้เสมอ เป็นสิ่งที่พระพุทธองค์ตรัสรู้ ถึงกฎ ธรรมชาติอันนี้ ไม่ว่าจะอยู่โลกไหน ๆ มุมไหนของโลกนี้ โลกเทวดา พรหมโลก หรือเป็นมนุษย์โลก หรือ เปน็ สรรพสตั วต์ า่ ง ๆ กต็ าม ลว้ นอยใู่ นกฎไตรลกั ษณอ์ นั นที้ งั้ สนิ้ และการเรยี นรกู้ ฎไตรลกั ษณต์ รงนนี้ แี่ หละ เป็นแนวทางที่จะเป็นไปให้เราทั้งหลาย ได้คลายจากอุปาทาน ให้เห็นถึงสัจธรรมความจริง
เพื่อเกิดความเบื่อหน่าย เพื่อคลายความยินดีพอใจ ในการเวียนว่ายตายเกิด ในอารมณ์ที่เข้ามา ก ร ะ ท บ ท า ง ต า ห ู จ ม กู ล นิ ้ ก า ย ใ จ ท เี ่ ร ยี ก ว า่ ใ น ก า ม ค ณุ ท งั ้ ๖ ใ น ก า ม ค ณุ ท งั ้ ห ล า ย ท เี ่ ก ดิ ข นึ ้ อ า ศ ยั ค ว า ม ย นิ ด ี พอใจเป็นที่ตั้ง เมื่อมีผัสสะเกิดขึ้นมา มีความยินดีพอใจในอารมณ์นั้น ๆ จึงจัดเป็นกามคุณที่เกิดขึ้นแล้ว คนเราก็พอใจสลับสับเปลี่ยนเวียนไปเรื่อย ๆ ตราบใดที่ยังไม่เห็น ยังไม่เข้าใจถึงกฎไตรลักษณ์ ถึงสัจธรรม อันแท้จริง ก็จะทาให้มีการวิ่งไหลไปตามอารมณ์ ไปหาอารมณ์นั้น อารมณ์นี้ จะเข้าไปยึดเอา ไปเกาะเกี่ยว ไปยึด พยายามที่จะยึด ให้เป็นไปตามที่ปรารถนา
ซงึ่ สงิ่ เหลา่ นพี้ ระพทุ ธเจา้ กต็ รสั ไวว้ า่ ความปรารถนาสงิ่ ใด ไมไ่ ดส้ งิ่ นนั้ นนั่ กเ็ ปน็ ทกุ ข์ เพราะธรรมชาติ กฎไตรลักษณ์นั้น ไม่ได้เป็นไปตามเหตุปัจจัย...ไม่ได้เป็นไปตามใจของใคร แต่เป็นไปตามเหตุและปัจจัย ของตน ๆ แม้แต่ลมหายใจของเรา ที่กาลังปรากฏเกิดขึ้นอยู่ ณ ขณะนี้ที่เรานั่งกรรมฐาน เราปฏิบัติธรรม การที่เราทาใจให้ว่าง ให้กว้าง หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การยกจิตขึ้นสู่ความว่าง การคลายอุปาทาน ละ ความเป็นตัวตนออกไปก่อน แล้วพิจารณาถึงอาการทางกาย ที่ปรากฏเกิดขึ้นมา
นี่แหละเป็นการเรียนรู้ เรียนรู้อะไร อาการทางกายก็คือร่างกายนี้ ในร่างกายนี้ ตัวนี้ มีการเปลี่ยน แปลง มีการเกิดดับอยู่เนือง ๆ อยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่แค่ลมหายใจเข้าออก ไม่ใช่แค่ลมหายใจเข้าออก แต่ เราเริ่มต้นด้วยการกาหนดรู้ อาการของลมหายใจเข้าออก อาการพองยุบ เพราะนั่นเป็นอาการเริ่มต้น จาก อารมณ์หยาบ ๆ ก่อน เราพิจารณาไปแป๊บหนึ่ง กาหนดรู้ไป มีสติตามรู้ไป พอสติสมาธิปัญญาเราแก่กล้าขึ้น ก็จะเริ่มเห็นว่า ลมหายใจเริ่มเปลี่ยนไป เริ่มบาง เริ่มเบา เริ่มจาง จากหายใจยาว ๆ ก็สั้นลง จากสั้น ๆ ก็มี อาการสะดุด มีอาการขาด ไม่ต่อเนื่องกัน จากนั้นก็จางไป หายไป คลายไป ว่างไป
พอสติมีกาลังมากขึ้น แม้แต่อาการพองยุบ ที่เราเคยคิดว่า หายใจเข้าท้องมันขยาย กระเพื่อมออก ก็หายไป ไม่มีท้อง อาการพองก็รู้แค่มีอาการเคลื่อนไป แล้วก็หายไป หยุดไป ลมหายใจไม่มีเหลือแต่ตัว พอมารู้ที่ตัว มีอะไร มีอาการเต้นของหัวใจ พอรู้อาการ พอมีสติตามกาหนดรู้อาการเต้นของหัวใจ ตามไป ตามไป จนอาการเต้นของหัวใจหายไป หยุดไป ว่างไป มีความสว่างเกิดขึ้นมาข้างหน้า พอรู้ความสว่างไป สักระยะหนึ่ง เกิดความสงบขึ้นมา พอมาดูที่ตัว ตัวก็ไม่มี แล้วตัวก็ว่างจางไป


































































































   544   545   546   547   548