Page 589 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 589

521
เพราะฉะนั้น การดูจิตในจิต จึงบอกว่ามีอยู่ ๓ อย่าง หนึ่ง ก็คือว่ารู้ว่าสภาพจิตใจเป็นอย่างไร สอง ก็คือรู้ว่าคิด ความคิดที่เกิดขึ้น มีความคิด อ่ะ!ขณะนี้กาลังมีความคิดต่าง ๆ เกิดขึ้นมา แล้วก็ สาม จิตที่ ทาหน้าที่รู้ รู้ว่าคิด รู้ถึงสภาพจิตมีความสุข ความสงบ และตัวจิต...ที่ทาหน้าที่รู้เอง เพราะฉะนั้น การดูจิต ในจิต จึงต้องอาศัยการพิจารณาโดยแยบคาย สังเกตให้ดี ถึงสภาวธรรมที่กาลังปรากฏเกิดขึ้นอยู่ ว่าเป็น ไปในลักษณะอย่างไร
การที่จะเห็นชัด ก็ด้วยการกาหนดรู้สภาวธรรม สภาพจิตขณะปัจจุบันขณะ ที่กาลังเป็นอยู่จริง ๆ นี่ แหละ จะทาให้เห็นชัดว่า สภาพจิตใจตอนนี้เป็นอย่างไร อาการที่เกิดขึ้น ความคิด หรืออาการที่ปรากฏเกิด ขึ้นมาเป็นอย่างไร ส่งผลต่อสภาพจิตใจเป็นอย่างไร นั่นเป็นเหตุปัจจัย ซึ่งกันและกันโดยตรงอยู่แล้ว เพราะ ฉะนนั้ ผปู้ ฏบิ ตั ิ ถา้ พจิ ารณาหรอื ใสใ่ จ กา หนดรอู้ ารมณป์ จั จบุ นั ใหช้ ดั เรอื่ งของจติ กจ็ ะชดั ขนึ้ เพราะเราปฏบิ ตั ิ ธรรมนี่นะ ไม่ว่าจะเป็นการกาหนดดูกาย รู้เวทนา หรือรู้จิต หรือสภาวธรรม ก็เพื่อให้สภาพจิตใจนั้นดีขึ้น จิตใจดีขึ้น ใจดีอย่างไร ใจสะอาด ใจว่าง ใจเบา ใจอิสระขึ้นมานั่นเอง
เพราะฉะนนั้ นนั่ เปน็ ผลโดยตรง ปฏบิ ตั แิ ลว้ ถา้ สตสิ มาธปิ ญั ญา พจิ ารณาอยกู่ บั อารมณป์ จั จบุ นั อยา่ ง ต่อเนื่อง เรื่องของสภาพจิตใจ ก็จะปรากฏชัดขึ้นมาเอง นั่นคือการดูจิตในจิต อีกอย่างหนึ่ง การรู้ธรรม ที่ เรียกว่าธรรมานุปัสสนาสติปัฏฐาน สภาวธรรมคืออะไร สภาวธรรมก็คือ อาการของรูปนามขันธ์ ๕ ทั้งหมด ทปี่ รากฏเกดิ ขนึ้ อยเู่ ฉพาะหนา้ ทเี่ ปน็ อารมณป์ จั จบุ นั อยนู่ นั่ แหละ ทจี่ ะเปน็ สภาวธรรม ทปี่ รากฏเกดิ ขนึ้ เปน็ ไปตามเหตุปัจจัยอยู่เนือง ๆ ไม่ว่าจะปรุงแต่ง ไม่ปรุงแต่ง ก็ยังทาหน้าที่ของตนอยู่ คืออาการของรูปนาม ขันธ์ ๕
เพราะฉะนั้นสภาวธรรมที่เกิดขึ้น อาการที่เราตามกาหนด ไม่ว่าจะเป็นอาการของลมหายใจ เวทนา ความคิด สภาพจิต หรือตัวจิตเอง ก็เป็นสภาวธรรมที่เกิดขึ้น แต่มีอีกอย่างหนึ่ง เป็นสภาวธรรมที่เกิดขึ้น บางทีเราก็ไม่แน่ใจ ว่าเป็นสภาวธรรมหรือเปล่า อย่างเช่น กาหนดรู้อาการของลมหายใจ กาหนดรู้อาการ พองยุบจนหมดไป หายไป ว่างไป ตัวหายไป แล้วมีอาการเหมือนมีแสง มีสี เกิดขึ้นมา มีอาการวูบวาบเกิด ดับระยิบระยับ เกิดขึ้นมาข้างหน้าในที่ว่าง ๆ
อันนั้น จัดเป็นสภาวธรรมที่เกิดขึ้น นั่นคือสภาวธรรมอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นนิมิตปรากฏขึ้นมา เป็น เครื่องหมายให้เราได้รู้ได้เห็นว่า ขณะนี้สภาวธรรมที่กาลังปรากฏ มีลักษณะอย่างนี้ มีความเปลี่ยนแปลง อย่างนี้ มีความเป็นไปในลักษณะอย่างนี้อยู่ นี่คือสภาวธรรม เพราะฉะนั้น ธรรมานุปัสสนาสติปัฏฐาน สภาวธรรมตา่ ง ๆ ทเี่ กดิ ขนึ้ หลกั การทเี่ ราปฏบิ ตั ิ พจิ ารณาถงึ อาการพระไตรลกั ษณ์ ถงึ ความเปน็ ไป...เปน็ หลกั
เพราะฉะนั้น คือกฎสัจธรรมของสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ ไม่เว้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รูปนาม ขนั ธ์ ๕ ของเรา ทคี่ นเราเขา้ ไปยดึ หลงเขา้ ไปยดึ วา่ เปน็ ตวั เราของเราอยนู่ ี้ กา ลงั ทา หนา้ ทขี่ องตนอยเู่ ปน็ ปกติ เป็นปกติเป็นธรรมดา เพราะฉะนั้น การที่เรานาเอาขันธ์ทั้ง ๕ มาเป็นเป็นอารมณ์กรรมฐาน จึงเป็นสิ่งสาคัญ เพราะจะทาให้ผู้ปฏิบัติ เห็นถึงสัจธรรมความจริง ที่บอกว่า ขันธ์ทั้งหลาย ไม่ได้บอกว่าเป็นตัวตน เป็นเรา เป็นของเขา


































































































   587   588   589   590   591