Page 867 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 867
799
ตามรู้ความคิดไปเรื่อย ๆ พอถามซ้าอีกก็ยังรู้สึก รอบถัดไป บัลลังก์ถัดไป ถามอีกความคิดดับอย่างไร ลมื อกี แลว้ ไมไ่ ดด้ อู กี แลว้ มแี ตค่ ดิ ...แตว่ า่ ความคดิ นอ้ ยลง ความคดิ ดบั อยา่ งไร ไมร่ .ู้ ..แตว่ า่ นอ้ ยลง สนั้ ลง กว่าเดิม คือมาแป๊บเดียวก็จบ มาแป๊บเดียวก็จบ ถามว่าดับอย่างไร ไม่เห็นอีก อันนี้อย่างหนึ่ง
เพราะนคี่ อื เจตนาในการกา หนดรู้ การรอู้ าการพระไตรลกั ษณ์ การเจตนาทจี่ ะรวู้ า่ เกดิ แลว้ ดบั อยา่ งไร ที่จริงแล้ว ถ้าเราสังเกตดี ๆ นะ รู้แล้วเกิดดับอย่างไร เป็นวิธีการที่จะข้ามสมมุติบัญญัติ ข้ามอารมณ์ บัญญัติเข้าไปสู่ปรมัตถ์ได้เร็วที่สุด อาการพระไตรลักษณ์ที่เกิดแล้วดับ ๆ เกิดดับ ๆ ยังไม่รู้เรื่องเลยดับ แล้ว กาลังจะคิดดับแล้ว รู้สึกทาท่าจะคิดเกิด ดับแล้ว ทาให้สติลอยขึ้นจากบัญญัติเข้าไปสู่ปรมัตถ์ พอไปสู่ ป ร ม ตั ถ ์ เ ข า้ ส ป่ ู ร ม ตั ถ เ์ ร ว็ เ ท า่ ไ ห ร ่ ก า ร ท จี ่ ะ ห ล ง ใ ห ล ค ล กุ ค ล เี ข า้ ไ ป ย ดึ เ อ า บ ญั ญ ตั เิ ป น็ อ า ร ม ณ ว์ า่ เ ป น็ ข อ ง เ ท ยี ่ ง เป็นของเราก็น้อยลงไปเรื่อย ๆ หรือจบเร็วไปด้วยแบบเดียวกัน
เพราะฉะนั้นความคิดที่เกิดขึ้น จริง ๆ แล้ว ถามว่าคาว่าเจตนาตรงนี้ ถึงแม้บางครั้งเจตนาตรงนี้ ไม่ชัด ที่อาจารย์พูด...บ่นไปรอบหนึ่งแล้วนะ พูดรอบที่สองก็คือว่า เราควรที่จะใส่ใจ เวลากาหนดความคิด ต้องมีเจตนาที่จะรู้ แล้วต่อไปเราจะรู้ว่า พอนั่งบัลลังก์ถัดไปความคิดเกิดขึ้นมาใหม่ ความคิดเกิดขึ้นเยอะ มากเลย...เหมือนเดิม ยังเกิดเยอะเหมือนเดิมแต่สั้นกว่าเดิม ความคิดเกิดขึ้นเยอะเหมือนเดิม แต่สั้นกว่า เดิม แว็บมาแล้วดับ แว็บแล้วดับ ๆ ๆ ไม่ไหลตามอารมณ์ความคิดนั้นนาน
ตรงที่เห็นคิดแล้วแว็บดับ ๆ ๆ ๆ เยอะเหมือนเดิมแต่สั้นกว่าเดิม และอาการที่คิดแว็บดับ ๆ ถึง แม้จะอยู่ประมาณสัก ๑๐ นาที จากที่เคยอยู่ ๒๐ นาทียาว ๒๐ นาที สั้นลงด้วย ทั้งขณะใหญ่และขณะ เล็ก ความคิดสั้นลงแต่ไม่ได้น้อยลง ถ้าพูดรวม ๆ เหมือนน้อยลง แต่หลายเรื่องเหมือนเดิมแต่สั้นกว่าเดิม อายุอารมณ์เขาสั้นกว่าเดิม แล้วพอกาหนดไปสักระยะหนึ่ง พอเกิดขึ้นมาใหม่จากที่เยอะ ๆ พอเขาหยุดไป ว่างไปนิดหนึ่ง พอความคิดใหม่ขึ้นมา ตอนนี้เริ่มความคิดน้อยลงกว่าเดิม นาน ๆ แว็บหนึ่ง นาน ๆ แว็บที หนึ่ง ยังดับเร็วเหมือนเดิม แต่สั้นลง เกิดน้อยลงกว่าเดิม
อันนี้คือความคิดเกิดขึ้นอีก น้อยลงกว่าเดิม สั้นกว่าเดิม ก็คือนาน ๆ แว็บเข้ามาแล้วก็ดับไป อยู่ ๆ แว็บขึ้นมาแล้วก็ดับไป แว็บไป ๆ ๆ และที่สังเกต ถ้าน้อยลง ความคิดน้อยลงกว่าเดิมปุ๊บ รู้สึกไหมจิต เปน็ อยา่ งไร เขาเปน็ ระเบยี บมากขนึ้ สงบมากขนึ้ ไหม เปน็ ระเบยี บมากขนึ้ ไหม อนั นตี้ อ้ งรู้ อนั นกี้ ต็ อ้ งสงั เกต รู้สึกจิตเราสงบขึ้น อาการเกิดดับอาการของความคิดน้อยลง เป็นระเบียบมากขึ้น ชัดเจนขึ้น และเวลาดับ ดับแล้วมีเศษไหม หรือดับแล้วเกลี้ยงไป ดับเด็ดขาด ดับแล้วว่างไป ดับแล้วโล่งไป อันนี้คือสังเกตแบบนี้ แล้วเล่าตามที่เห็น นี่คือความคิด เพราะสภาวะเหล่านี้ลักษณะอาการเกิดดับของอารมณ์ที่ต่างไป เป็นตัว บอกถึงปัญญาของเรา ลักษณะของปัญญาญาณ
ญาณคือปัญญา ปัญญาในการเห็นถึงลักษณะอาการพระไตรลักษณ์ ต่างไปแบบนี้ ถามว่าพอเห็น แบบนี้ สภาพจิตใจดีขึ้นไหม เราก็จะรู้สึกได้ทันทีว่ารู้สึกสงบขึ้น ดีขึ้น ความวุ่นวายน้อยลง เราบอกได้ทันที เลย โดยที่ไม่ต้องมา...น่าจะน้อยลงมั้ง...คงไม่น่าจะ ต้องรู้สึกชัดแบบนี้ น้อยลงก็ให้รู้ชัดว่าน้อยลง มากขึ้น ให้รู้ชัดว่ามากขึ้น แล้วเวลาเล่าสภาะนี่นะ เล่าตามที่เห็นอย่างเดียว เล่าตามที่เป็น...ไม่มากเกิน ไม่น้อยเกิน