Page 869 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 869
สภาวะก็จะปรากฏต่อเอง ยังไม่ต้องไปกังวล ให้ตามรู้ให้ชัดไปเลย
ถ้ากาหนดรู้แล้วมันดับแล้วมันมัว ๆ สลัว ยิ่งดับยิ่งมืดยิ่งสลัวแล้วมืด ๆ ๆ ๆ เห็นตามรู้อาการเกิด ดับแล้วมืด ๆ สังเกตนิดหนึ่ง สิ่งที่เราพอพูดอย่างนั้น สิ่งที่เราใส่ใจคืออะไร...คือความมืด ยิ่งดับยิ่งมืด ๆ เห็นไหม แต่เราไม่ได้บอก อาการดับมันดับเด็ดขาดมากขึ้นกว่าเดิม มืดมากขึ้นกว่าเดิม ยิ่งมืดอาการเกิด ดับยิ่งคม...ชัด หรือเด็ดขาดมากกว่าเดิม ไม่ได้เล่าถึงอาการ แต่เล่าถึงผล ผลที่ยิ่งตามรู้อาการดับ ยิ่งดับ ยิ่งมืด ๆ ถามว่าขณะที่มืดมากขึ้น จิตรู้สึกอย่างไร สงบขึ้นไหม เราสนใจ...ถ้าเราพูดถึงยิ่งดับยิ่งมืด ๆ เรา สนใจอะไร สนใจแสงหรือสี คือความมืด แต่ไม่ได้สนใจสภาพจิตใจตัวเองว่า สงบขึ้น นิ่งขึ้น ตั้งมั่นขึ้น ว่างมากขึ้น หรือเงียบมากขึ้น หรือสงัดมากขึ้น อันนี้คือ ไม่ได้สนใจดูสภาพจิต
แต่จริง ๆ แล้ว รู้สึกได้ไหม รู้สึกได้ ถึงไม่ใส่ใจก็รู้สึกได้ ตรงนั้นแหละกลายเป็นว่า เราไปรู้ผิดจุด คือเราให้ความสาคัญผิดจุด รู้สึกเขาเกิดมาทั้งหมด แต่เราให้ความสาคัญผิดจุดแค่นั้นเอง เหตุปัจจัยเขา เกิดขึ้น แต่การให้ความสาคัญผิดจุด ตรงนี้แหละ เหมือนเราให้ความสาคัญผิดประเด็น จุดสาคัญก็คือ เรารอู้ ะไร รอู้ าการพระไตรลกั ษณ์ แลว้ ผลคอื ตวั สภาพจติ แตไ่ มใ่ ชส่ แี สง มนั สวา่ งขนึ้ ๆ จติ รสู้ กึ เปน็ อยา่ งไร ตื่นตัว รู้สึกสบาย รู้สึกโปร่งขึ้น อันนี้เหมือนกัน เราบอกได้ทั้งสองอย่าง ยิ่งมืด ยิ่งสงบ ๆ ยิ่งสงัดขึ้น เหมือนอยู่เข้าไปในถ้าลึก ๆ จิตยิ่งสงบมากกว่าเดิม ถ้าเป็นแบบนี้ ความมืดนั้นจะไม่น่ากลัว
แต่ถ้าเรากาหนดยิ่งดับไปมันลึกไป ยิ่งมืด ๆ แต่ไม่ได้เห็นเพราะจิตเราสงบมากขึ้นหรือเปล่า ตรงนี้ เริ่มปรุงแต่ง เริ่มเห็นความน่ากลัวของความมืด เพราะอะไร คนเรายิ่งถ้าเราเคยเป็นคนกลัวที่มืด ยิ่งกลัว พอกลวั ปบุ๊ จติ กค็ ลายกถ็ อยออกมา เขาคลายเขาถอยออกมาเอง เพราะฉะนนั้ เวลากา หนดกต็ อ้ งรชู้ ดั แบบนี้ พอเปน็ แบบนแี้ กป้ ญั หาไดห้ ลายอยา่ งเลยนะ จะทา ใหเ้ รามนั่ ใจ มนั่ ใจในตวั เอง อยา่ งหนงึ่ คอื สภาวะทเี่ กดิ ขนึ้ ที่เห็นนั้นเป็นแบบนี้จริง ๆ ไม่ได้คิดเอา ไม่ได้คิดเอาเอง แต่เป็นแบบนี้ ๆ เหมือนเราพิสูจน์ด้วยตัวเองว่า สภาวธรรมที่กาลังเกิดขึ้น เป็นแบบนี้
ทพี่ ดู ถงึ มาเปน็ สภาวธรรม เปน็ อาการของอะไร อาการเกดิ ดบั ทเี่ ราเขา้ ไปในความมดื อะไรดบั ความ รู้สึกดับปื๊บมันมืดขึ้น ตรงที่มืดขึ้น แล้วสงบขึ้น คือตัวสภาพจิต ความรู้สึก คือความรู้สึกที่เข้าไปรู้ความ สงบความมืดนั้น เห็นไหมกลายเป็นอาการ เขาทาหน้าที่กลายเป็นอาการ ที่เราก็ต้องตามรู้อาการนี้ไป เรียก ว่าอาการเข้าไปแล้วเขาดับฟื๊บ มีอาการดับฟื๊บแล้วมืด ดับฟื๊บแล้วมืด หรือดับแล้วสงบขึ้น ยิ่งสงบมากขึ้น สภาวะหลากหลาย พอเล่าไปเล่ามานี่นะ เอาสภาวะใครเล่าดี ไม่ต้องหรอก อันนี้ยกตัวอย่าง
วิธีการเล่าสภาวะ เหมือนเดินจงกรม ขณะที่เดินจงกรม พวกเราไม่ค่อยเดินจงกรมหรอก...ใช่ไหม เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเดินจงกรมหรอก รู้แต่ว่าขณะเดิน เดินไปไหนไม่รู้ เดิน ๆ ๆ แต่เพราะว่ากาหนดได้โดยที่ไม่ ต้องเป็นจงกรม เหมือนกับไม่ต้องอาศัยการจงกรม เดินไปนู่นไปนี่แล้วทาไป จริง ๆ แล้ว เมื่อไหร่ถ้าเรามี เจตนา ขณะทกี่ า หนดอาการเดนิ หรอื จะเดนิ จงกรม กด็ .ี ..ไมผ่ ดิ นะ ยงั เดนิ ไดอ้ ยนู่ ะ...เดนิ จงกรม เดนิ จงกรม ก้มหน้านิดหนึ่ง จิตไม่วอกแวก ไม่ต้องเชิด ขอให้ก้มหน้านิดหนึ่ง ห่างตัวประมาณนี้ จะได้ไม่ซัดส่าย ถ้าเรา ใช้ในอิริยาบถทั่วไป เราก็เดิน กลายเป็นกาหนดอาการอิริยาบถย่อย
801