Page 888 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม
P. 888
820
เหมือนดาวอยู่ไกล ๆ ถึงแม้เป็นเหมือนดาวอยู่ไกล ๆ เป็นจุดแสงสว่างขึ้นมา เราก็ยังรู้ว่านั่นคือเป้าหมาย ที่สามารถไปถึงได้ เพียงแต่ต้องใช้ความเพียร คือความขยันความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่อง ตั้งใจที่จะเดินต่อไป เรื่อย ๆ ยิ่งสติเรามีกาลังมากเท่าไหร่ เป้าหมายก็จะใกล้เข้าไปเท่านั้น อันนี้อย่างหนึ่ง
พอส่งจิตตรงไปที่เป้าหมายตรงนั้น ให้ดับไปที่เป้าหมายนั้น แล้วให้หยุดอยู่ตรงนั้นปุ๊บ แล้วกลับมา ดูสภาพจิต มาดูที่หทัยวัตถุ ลองดูว่า รู้สึกเป็นอย่างไร... มีพลังมากขึ้นไหม ? ถ้ารู้สึกมีความตื่นตัว มีพลัง มีความสว่าง มีความใสขึ้น นั่นแสดงว่าจิตเรามีกาลังที่สามารถเดินทางไปได้ (เป้าหมายนั้น)สามารถเข้าถึง ไดด้ ว้ ยกา ลงั สต-ิ สมาธ-ิ ปญั ญาของเรา อนั นตี้ อ้ งพสิ จู นด์ ว้ ยตวั เอง อยา่ งหนงึ่ กค็ อื วา่ เมอื่ อธษิ ฐานจติ แลว้ ให้ ทาซ้า ๆ อธิษฐานซ้า ๆ ได้ไหม ? เราสามารถอธิษฐานได้ทุกบัลลังก์ ไม่ว่าขณะยืน ขณะเดินจงกรม ขณะ นั่งกรรมฐาน อธิษฐานได้ทุกบัลลังก์ได้ทุกวัน
และการอธิษฐานจิตให้อธิษฐานทีละอย่าง เพราะจิตเราจะมีกาลัง แต่บางคนอธิษฐานจิตห้านาที คิดไปทั่วเลย อยากเป็นโน่นอยากเป็นนั่น อยากได้โน่นอยากได้นี่ อยากได้เต็มไปหมด แล้วจิตก็ไม่มี กาลัง เมื่อจิตไม่มีกาลัง ผลก็สัมฤทธิ์ช้า แล้วการตั้งจิตอธิษฐานอย่างนี้ เราจะเคยได้ยินว่าบุคคลผู้มีฌานมี อภิญญา จิตที่มีกาลังก็จะมีอภิญญา แค่ตั้งจิตอธิษฐานก็สัมฤทธิ์ผลด้วยอภิญญาจิต คือจิตที่เต็มไปด้วย พลัง มีความผ่องใส มีความตั้งมั่น มีความบริสุทธิ์ อธิษฐานเสร็จก็สัมฤทธิ์ผลแล้ว นี่คืออย่างหนึ่ง เพียง แต่ว่ากาลังของเราขนาดนี้ เราก็ต้องฝึกทาให้มากขึ้น ๆ
ทีนี้ พอตั้งจิตอธิษฐานเสร็จกลับมาดูที่ตัวใหม่ ถ้าจิตเรามีพลังมากขึ้น มีความใสขึ้น มีความสว่าง ขึ้น มาดูที่จิตท่ีใสที่สว่าง มาพิจารณาดูจิตในจิตต่อไป ดูความใสความสว่างดูการเปลี่ยนแปลงไป หรือให้ นิ่งนิดหนึ่ง พอมีพลังมากขึ้นอีกค่อยตั้งจิตใหม่ ทีนี้การตั้งจิตแบบนี้ อย่างเช่น การตั้งจิตว่าปีหน้าอยากจะ ทาอะไรให้สมหวังให้สาเร็จ พอตั้งจิตเสร็จปุ๊บ ส่งจิตที่มีพลังไปที่สิ่งนั้น ให้กว้างกว่าสิ่งที่เราจะทา ให้พลัง อันนี้คลุมห่อหุ้มสิ่งนั้นเอาไว้ รู้สึกเหมือนว่าเราทาได้แล้ว มันรู้สึกชัดขึ้นมาในความรู้สึกเลยว่าขึ้นอยู่กับเรา แลว้ มนั อยตู่ รงนอี้ ยภู่ ายใน แลว้ กร็ สู้ กึ มคี วามศรทั ธามคี วามเชอื่ มนั่ ในคา อธษิ ฐานของเรา แลว้ กม็ ตี วั มงุ่ ตงั้ จิตแน่วแน่พร้อมที่จะทา ทา ทา...ไป ให้กาหนดแบบนี้ซ้า ๆ ลองดู ทาแล้วรู้สึกยังไง
ทพี่ ดู อยา่ งนเี้ พราะอยา่ งทยี่ กตวั อยา่ งเรอื่ งขององคส์ มเดจ็ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ และแมใ้ นพระสตู ร ตา่ ง ๆ พระพทุ ธองคเ์ สดจ็ ไปรบั บณิ ฑบาตทบี่ า้ นใด บคุ คลทนี่ มิ นตพ์ ระพทุ ธเจา้ ไปรบั บณิ ฑบาตจนครบเจด็ วนั เมื่อรู้สึกว่าได้ทาบุญตักบาตรเต็มที่แล้วก็จะอธิษฐานจิต หากเกิดความศรัทธาในพระภิกษุรูปใดที่ไปรับ บิณฑบาตด้วย ยกตัวอย่างเช่น บางคนมีความศรัทธาในพระสารีบุตร ก็นิมนต์พระสารีบุตรแสดงธรรม เมื่อการแสดงธรรมเสร็จแล้วก็ตั้งจิตอธิษฐาน ด้วยอานิสงส์ผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ถวายอาหารแด่พระสงฆ์ซึ่ง มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน ขอให้บุญนั้นจงส่งผลให้ข้าพเจ้าได้เป็นผู้มีสติมีปัญญาดีเหมือนพระสารีบุตร...
เราจะเห็นว่าเขามักจะกล่าวไว้ว่า พออธิษฐานจิตแบบนี้ หลังจากทาบุญกับพระอริยสงฆ์ทั้งหลายที่ มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน ผลก็สัมฤทธิ์สมหวังในภพชาติต่อไปหรือต่อ ๆ ไป เพียงแต่ว่าการอธิษฐานจิต นนั้ บางครงั้ ไมใ่ ชว่ า่ อธษิ ฐานวนั นแี้ ลว้ พรงุ่ นเี้ กดิ ขนึ้ และบางครงั้ กไ็ มไ่ ดห้ มายความวา่ คา อธษิ ฐานของเราตอ้ ง
