Page 39 - ดับตัวตน ค้นธรรม
P. 39
จากการเจริญสติ สมาธิ ปัญญาที่แก่กล้ายิ่งขึ้น มีปัญญาพิจารณาถูกจุด ถ้าแยกรูปนามไม่ได้ ก็ไม่รู้ว่าจิตดับอย่างไร รูปดับอย่างไร เพราะเราจะ รู้สึกว่ามีแต่เราเป็นผู้ดูอยู่ตลอดเวลา จึงไม่เห็นว่าจิตดับหรือไม่ดับ
แต่ถ้าใครที่แยกรูปนามได้ เห็นว่านามเป็นแบบนี้ รูปเป็นแบบนี้ ตวั จติ ทเี่ ขา้ ไปรบั รเู้ กดิ ดบั อยา่ งไร กจ็ ะสามารถเหน็ อาการของรปู นามอยา่ ง แทจ้ รงิ วา่ มกี ารเปลยี่ นแปลง หรอื เกดิ ดบั ในลกั ษณะอยา่ งไร เพราะฉะนนั้ ขอให้เราตั้งใจ ใส่ใจ สังเกตอาการที่อยู่เฉพาะหน้าจริง ๆ ขณะนี้เดี๋ยวนี้ว่า เป็นไปในลักษณะอย่างไร มีเจตนาที่จะรู้ถึงอารมณ์ปัจจุบันที่เรียกว่า “ปัจจุบันขณะ” หรือทุก ๆ ขณะที่เกิดขึ้นนี่แหละคือขณะปัจจุบันจริง ๆ เกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไป เป็นสภาวธรรมที่เป็นอารมณ์ปัจจุบันจริง ๆ
ถ้าเราสังเกตจะเห็นว่า จิตที่ทาหน้าที่รู้เขาจะไม่ปรุงแต่งอะไรเลย มีแต่จิตที่นิ่ง แล้วตามกาหนดรู้ถึงการเกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไป, เกิดขึ้น-ตั้ง อยู่-ดับไป... ตัวรู้นี่เขาจะไม่ปรุงแต่ง แต่รู้ว่าใส รู้ว่าสุข รู้ว่าเบา รู้ว่าสงบ รู้ว่าสว่าง... ตัวรู้ตัวนี้ไม่ปรุงแต่ง นี่แหละคือจิตที่เป็นกลางจริง ๆ เขารู้ แบบไม่ต้องไปปรุงแต่งให้ใส ไม่ต้องไปปรุงแต่งให้เบา แต่มีหน้าที่รู้ความ เบา รู้ความสุข รู้แล้วก็ดับไป นั่นคือจิตที่เป็นกลางจริง ๆ รู้ชั่วขณะหนึ่งก็ ดับไป
เพราะฉะนั้น สังเกตให้ดี ทุก ๆ วินาที คือการเจริญกรรมฐาน คือ การเดนิทางไปสมู่รรคผลนพิพานทกุๆวนิาททีเี่รารบัรถู้งึการเกดิดบัของ รปู นาม คอื การเดนิ ทางไปสคู่ วามอสิ ระของจติ เพราะฉะนนั้ ไมว่ า่ สภาวธรรม อะไรที่เกิดขึ้นมา ขอให้มีเจตนาที่จะเข้าไปกาหนดรู้ถึงการเกิดขึ้น- ตั้งอยู่-ดับไปของสภาวธรรมเท่านั้น แล้วก็พิจารณาถึงผลที่เกิดขึ้น คือ
31