Page 103 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 103

ทีนี้ การดูกายทาให้เราเห็นจิตชัดเจนขึ้น เพราะกายเลือนไป หายไปว่างไป กลับไปสู่ความว่างเปล่า สิ่งที่เหลือคืออะไร ? เหลือแต่จิตที่ ว่าง ที่โล่ง ที่โปร่ง ที่สงบ ที่เบา นั่นกลายเป็นว่าเห็นชัดเจนยิ่งขึ้นว่า กาย กับจิตนี่ต่างกันอย่างสิ้นเชิงจริง ๆ แต่ในขณะเดียวกันทาไมพระองค์ทรง ตรัสว่าตัวจิตก็ไม่เที่ยง เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณไม่เที่ยง จิตตรงนี้ ตรงความว่าง โล่ง โปร่ง เบา เป็นสุขเวทนา เป็นโสมนัสเวทนา แม้แต่ อุเบกขาเวทนาก็เป็นเวทนาทางจิตที่เกิดขึ้น และเวทนาก็เป็นของไม่เที่ยง เมื่อไม่เที่ยงเราจะพิจารณาอย่างไรเพื่อไม่ให้หลงยึดติดกับเวทนาอันนี้ ไม่ เข้าไปยึดจิตว่าเป็นของเรา ?
จึงต้องพิจารณาต่อว่าแม้แต่จิตที่ว่างเบาอันนี้มีการเปลี่ยนแปลง อยา่ งไร มสี ตเิ ขา้ ไปกา หนดรถู้ งึ จติ ทวี่ า่ งเบาทกี่ า ลงั ปรากฏอยนู่ อี้ กี ตรงนเี้ ขา เรียกว่า “ดูจิตในจิต” การพิจารณาดูจิตในจิต ใช้อะไรดูจิต ? ก็ใช้จิตนั่น แหละ จึงเรียกว่าดูจิตในจิต เป็นการแยกนามกับนาม แยกจิตกับจิต เห็น วา่ จติ ดวงหนงึ่ คอื ตวั สภาพจติ ทมี่ คี วามโลง่ ความโปรง่ ความเบา ความสงบ ความสุข จิตอีกดวงหนึ่งคือวิถีจิตที่เข้าไปกาหนดรู้ ที่เรียกว่าตัววิญญาณ จิต ที่ทาหน้าที่รับรู้อารมณ์ต่าง ๆ รับรู้อารมณ์เหล่านั้น ดับไป แล้วก็เกิด ขึ้นมาใหม่ จิตดวงใหม่ขึ้นมา รับรู้ใหม่ ดับไปใหม่...
ทนี ี้ การดจู ติ ในจติ ตรงนแี้ หละ จะเปน็ การสารวจวา่ การกระทา การ ปฏิบัติที่เห็นความจริงตามคาสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วทาไมจิตถึงผ่องใสหรือสะอาดมากขึ้นได้ และเมื่อยิ่งเข้าไปกาหนดรู้ จติ ทบี่ อกวา่ วา่ งแลว้ ยงั มคี วามละเอยี ด ความวา่ ง ความสะอาดหมดจดมาก ขึ้นอีกไหม ? หรือจิตที่ว่างแล้วว่างจากอะไร ? ว่างจากอุปาทาน ว่างจาก ตัวตน ว่างจากความทุกข์ ว่างจากอกุศล เหลือแต่มหากุศล มีจิตที่ดีที่งาม
99


































































































   101   102   103   104   105