Page 129 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 129
มาใส่ตัวเรา น้อมมาใส่ใจของเราให้เกิดเป็นที่พึ่ง เขาเรียก “ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ” เอาธรรมะมาเป็นที่พึ่งของชีวิตของเรา พึ่งธรรมะ พึ่งสัจธรรม พึ่งความจริง แล้วจะทาให้จิตเรามีแต่ความสุขความเจริญ เขาเรียก “เป็น ที่พึ่งอันประเสริฐ เป็นที่พึ่งอันเกษม” พึ่งสิ่งใดไม่เท่ากับพึ่งสัจธรรมความ จริง เพราะการพึ่งความจริงทาให้เราสงบได้ ทาให้เราเย็นได้ เพราะฉะนั้น ขอให้เราน้อมธรรมะนั้นมาใส่ใจของเรา แล้วก็นามาเป็นแนวทางในการ ปฏิบัติเป็นลาดับต่อไป
การแสดงธรรมมาคิดว่าสมควรแก่เวลา ขอหยุดไว้แต่เพียงเท่านี้ และต่อไปให้เรานั่งสมาธิ เจริญกรรมฐานต่ออีกสักนิดหนึ่ง จากนั้นก็ ให้แผ่เมตตา และน้อมบุญถวายเป็นพระราชกุศลถวายพระพรสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพรุ่งนี้ตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพ เป็นวันเฉลิม พระชนมพรรษา วันนี้เราบาเพ็ญเพียรปฏิบัติธรรมมา ให้ทาจิตของเราให้ เป็นบุญ มีพลังของบุญ แล้วค่อยแผ่เมตตากัน เดี๋ยวอาจารย์จะไม่ใช้เสียง ใช้เวลาประมาณสักสิบนาที ให้เรานั่งพิจารณาดูกายดูจิตของตนเองไป จนกว่าจะเห็นสมควรแก่เวลา จากนั้นค่อยแผ่เมตตากัน ขอให้ตั้งใจกัน...
ก่อนแผ่เมตตาทุกครั้ง ขอให้เราน้อมระลึกนึกถึงกุศลผลบุญ ต่าง ๆ ที่เราได้ทา น้อมเข้ามาใส่ใจของเราให้เต็ม จากนั้นรู้สึกว่าใจของเรา เ ต ม็ ไ ป ด ว้ ย พ ล งั แ ห ง่ บ ญุ พ ล งั ข อ ง ค ว า ม ด ี แ ล ว้ แ ผ อ่ อ ก ไ ป ใ ห ก้ ว า้ ง ใ จ ท เี ่ ป น็ บุญ ใจที่เต็มไปด้วยพลังของความดีนั้น แผ่ออกไป ขยายออกไปให้กว้าง ให้เต็มทั้งศาลา ให้กว้างออกไป จนรู้สึกว่าจิตเรามีพลังเต็มที่ จากนั้นก็ให้ อธษิ ฐานจติ ใหก้ บั ตนเอง “ดว้ ยอานภุ าพแหง่ บญุ นี้ จงมาเปน็ ตบะ เปน็ พลว เป็นปัจจัยให้เราเป็นผู้มีสติ มีสมาธิ มีปัญญา มีดวงตาเห็นธรรม และเข้า ถึงธรรมโดยฉับพลัน” จากนั้นให้แผ่จิตที่เป็นบุญอันนี้ให้กว้างออกไปอีก
125