Page 226 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 226
222
รู้อารมณ์ปัจจุบันขณะอยู่เนือง ๆ ทาให้สติ-สมาธิ-ปัญญาแก่กล้ามากขึ้น มีความแยบคายในสภาวะที่ละเอียด การท่ีจะหลงในสภาวะท่ีละเอียดก็ จะคลายไป และท่ีสาคัญก็คือว่าการกาหนดรู้แบบน้ีย่ิงละเอียดยิ่งชัดขึ้น จิตยิ่งผ่องใส ยิ่งสะอาด ยิ่งอิสระ ยิ่งตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวกับอารมณ์ที่เข้า มากระทบทางตาหูจมูกลิ้นกายใจอีกต่อไป ความมั่นคงในอารมณ์จะเกิด ขนึ้ ความหวนั่ ไหวในอารมณจ์ ะนอ้ ยลงลดลง เพราะจติ ทมี่ คี วามหนกั แนน่ มั่นคงจะไม่เกิดความกลัว/หวั่นไหวกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ จึงมีความ มั่นคงในตนเอง นี่แหละการพิจารณาสภาวธรรมที่เกิดขึ้น
เพราะฉะนั้น การที่เราได้มาราลึกนึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมา- สัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ในวันสาคัญต่าง ๆ ทางศาสนา เหล่านี้ ควรน้อมถึงธรรมะคาสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เขา้ มาใสต่ วั นอ้ มเขา้ มาใสใ่ จ ทา ใหเ้ กดิ ขนึ้ ภายในตวั ภายในจติ ใจของเราเอง นั่นคือเราจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์ว่าคาสอนของพระองค์นั้นมีคุณค่ามี ประโยชน์กับชีวิตจริง ๆ เพราะชีวิตคนเรานั้นเวียนว่ายตายเกิดไม่มีจุด เริ่มต้นไม่มีที่สิ้นสุด แต่พระองค์ทรงบอกแนวทางในการเดินทางออกจาก วัฏฏะ ความวนเวียนไม่มีสิ้นสุดนี้มีทางออกได้/เดินสุดได้/จบได้ นั่นเป็น ปัญญาอันพิเศษที่พระองค์ทรงตรัสรู้เรื่องอริยสัจสี่และชี้ทางให้เราปฏิบัติ ตาม นั่นคือสัจธรรมที่เราสามารถทาได้ปฏิบัติได้ ณ ขณะนี้เดี๋ยวนี้ และ ต่อ ๆ ไป ที่เราสามารถพัฒนาให้สติปัญญามีความเข้าใจให้ทั่วถึงให้รอบ ทั้งภายในและภายนอก
ทนี ี้ การพจิ ารณาสภาวธรรมทงั้ ภายในภายนอก สภาวธรรมภายใน/ อาการของรูปนามภายในเป็นแก่นแห่งธรรมที่เราสามารถสัมผัสได้เข้าถึง ได้ อารมณ์ภายนอกก็ไม่ต่างกัน เพราะนั่นคือกฎของไตรลักษณ์ ไม่ว่าสิ่ง