Page 9 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 9

ใครทไี่ มร่ วู้ า่ จติ เปน็ อยา่ งไรกไ็ มต่ อ้ งไปกงั วล ใหด้ อู าการทเี่ กดิ ขนึ้ ดลู มหายใจ เราไปก่อน - นั่งกาหนดรู้ลมหายใจเบา ๆ สบาย ๆ หายใจเข้าแบบสบาย ๆ ยาว ๆ หายใจออกก็ยาว ๆ สบาย ๆ
ตามรู้ลมหายใจของเราไปให้ชัดเจน ตามรู้ไปเรื่อย ๆ ดูว่าการที่ เรามีสติตามกาหนดรู้อยู่กับลมหายใจเข้าออกที่เป็นปัจจุบัน ทาให้จิตเรา เป็นอย่างไร ? ทาให้จิตเราสงบขึ้นไหม ? มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ? การที่เรามี สติรู้อยู่กับลมหายใจของตนเอง เราได้เห็นไหมว่าจิตของเราเป็นอย่างไร ? อยู่อย่างสงบ หรือมีเรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย เดี๋ยวเรื่องนั้นเกิดขึ้น เดี๋ยวเรื่องนี้เกิดขึ้น เดี๋ยวคิดถึงเรื่องนั้นเดี๋ยวคิดถึงเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา นั่นคือธรรมชาติ
การที่เราได้เห็นอาการเหล่านี้ เราจะได้รู้อะไร ? เราจะได้รู้ว่า ทาไม ชีวิตของเราเมื่อเกิดขึ้นมาแล้วต้องมีสภาพแบบนี้ ทาไมไม่อยู่อย่างสงบ หรือเมื่อเห็นอาการวุ่นวาย เดี๋ยวเรื่องโน้นเรื่องนี้เกิดขึ้นมา เรารู้สึกไหมว่า สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเราไม่เคยหยุดนิ่งเลย เหมือนชีวิตของเรา มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อย ๆ ไม่รู้จักสงบ ? เพราะฉะนั้น การที่คนเรา ไม่เจอความสงบ ไม่รู้จักหยุดจิตใจตัวเอง หรือไม่รู้วิธีที่จะหยุด จึงทาให้ วุ่นวาย จึงทาให้เกิดความทุกข์ขึ้นมา
เมอื่ จติ คนเราสบั สนวนุ่ วาย โลกกจ็ ะวนุ่ วายตาม เพราะความวนุ่ วาย ต่าง ๆ เกิดจากจิตของบุคคล จิตของบุคคลวุ่นวาย การกระทาต่าง ๆ ก็ วุ่นวาย ถ้าจิตของบุคคลสงบ การกระทาต่าง ๆ ก็สงบ เมื่อการกระทา ต่าง ๆ สงบ โลกก็สงบ เราสงบกายสงบวาจาสงบใจ โลกก็สงบ เหมือน เรานั่งอยู่ตรงนี้ขณะนี้ ถ้าเรามีสติพิจารณาถึงอาการที่เกิดขึ้น - มีสติรู้อยู่ กับลมหายใจเข้าออก ยาวก็รู้ว่ายาว สั้นก็รู้ว่าสั้น, รู้อาการกระเพื่อมไหว
5


































































































   7   8   9   10   11