Page 11 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 11
มีอาการแบบนี้อยู่เป็นระยะ ๆ เพราะฉะนั้น การที่เราจะออกจากวัฏสงสาร จะชาระจิตของเราให้พ้นจากความทุกข์อย่างสิ้นเชิง ก็ต้องอาศัยการ พิจารณารู้ความจริงของสภาวธรรมเหล่านี้แหละ
ความปวดที่เกิดขึ้น เวทนาที่เกิดขึ้นตามร่างกาย ที่บอกว่าเป็นของ เรา ของเรา ถ้าพิจารณาจริง ๆ ลองดูว่า ความปวด เมื่อย ชา คันที่เกิดขึ้น มสี งิ่ ไหนบา้ งทบี่ อกวา่ เปน็ ของเรา ? แคเ่ ปน็ อาการของรา่ งกาย แลว้ จติ ทที่ า หน้าที่รู้กับความปวด ความเมื่อย ความชา ความคัน เขาเป็นส่วนเดียวกัน หรือเปล่า ? แล้วจิตเองเขาบอกว่าเป็นเราไหม ? สภาวธรรมต่าง ๆ เหล่านี้ เกิดขึ้นมา ถ้าเราไม่พิจารณา เขาจะหายไหม ? เขาก็ยังเป็นอยู่ของเขา เพียงแต่ว่าเราทาอย่างไรเมื่อสภาวะเหล่านี้เกิดขึ้น ถึงจะมีประโยชน์มาก ที่สุด ?
ประโยชน์สูงสุดคืออะไร ? ประโยชน์สูงสุด คือ การทาจิตของตน ใหห้ ลดุ พน้ จากวฏั ฏะ จากวงเวยี น จากการเวยี นวา่ ยตายเกดิ จากการเขา้ ไป ยึดกับความทุกข์ที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้น ประโยชน์สูงสุดที่จะเกิดขึ้นจาก การอาศัยเวทนา คือการพิจารณาอาการพระไตรลักษณ์ของเวทนา ประโยชนส์ งู สดุ ทจี่ ะตามมาคอื ปญั ญา - ปญั ญาทจี่ ะทา ใหเ้ รารแู้ จง้ เหน็ จรงิ ในสภาวธรรมที่กาลังปรากฏอยู่ว่าเป็นไปอย่างไร เป็นธรรมชาติอย่างไร
และการกาหนดรู้ถึงการเปลี่ยนแปลง ถึงธรรมชาติของเวทนา ความปวด หรือความคิดที่เกิดขึ้น จะทาให้จิตเราคลายจากอุปาทาน และ ทาให้สติเรามีกาลัง สมาธิเราแก่กล้าตั้งมั่น ปัญญาแก่กล้าเฉียบแหลม เห็นชัดมากขึ้น แล้วความทุกข์ก็จะลดลง อุปาทานการยึดมั่นถือมั่นว่า เป็นของเราก็จะลดลงน้อยลง นั่นแหละการพิจารณาธรรม เพราะฉะนั้น ในการปฏิบัติธรรม นอกจากมีสติรู้อยู่กับปัจจุบัน ก็พิจารณาถึงความ
7
