Page 14 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การกำหนดต้นจิตอิริยาบถย่อย
P. 14
132
เหมือนที่เราเดินจงกรมนั่นแหละ เวลาเราเดินจงกรม เรายกเท้า... เคลื่อนไป ก็สังเกตแบบเดียวกัน นี่คอืเลือกทีละอารมณ์บางครั้งในขณะทเี่ราทาอิรยิาบถยอ่ยกวาดไปดว้ยพดูคุยไปด้วยหนัซ้ายหันขวาไป ดว้ ย นคี่ อื มหี ลายอารมณใ์ นขณะเดยี วกนั เมอื่ เรามเี จตนาทจี่ ะกา หนดอาการของอริ ยิ าบถยอ่ ยของตนเองก็ ต้องมีเจตนาที่จะรู้ทีละอารมณ์ทีละอย่าง พอเรามีเจตนาที่จะรู้ทีละอารมณ์ สติจะมีกาลังขึ้น อาการเกิดดับ ก็จะชัดขึ้นตามมาเอง ขณะที่มีหลาย ๆ อารมณ์เกิดขึ้นก็ขึ้นอยู่กับ “เจตนา” เป็นตัวสาคัญเลย เรามีเจตนา ที่จะคุย เจตนาที่จะฟังเสียง หรือเจตนาที่จะรู้อาการกวาด วิถีจิตหรือตัวมุ่งเรามีเป้าหมายเข้าไปในแต่ละ อารมณ์ต้องมีความชัดเจน
แตถ่ า้ เรารกู้ วา้ ง ๆ แลว้ ปลอ่ ยไปตามทเี่ ขาเปน็ อะไรจะเกดิ กเ็ กดิ เดยี๋ วแวบ็ โนน่ แวบ็ นี่ รแู้ บบวงิ่ ไปวงิ่ มาตลอด ถา้ สตไิ มม่ กี า ลงั หรอื จติ ไมต่ งั้ มนั่ อาการเกดิ ดบั กไ็ มช่ ดั แวบ็ โนน่ แวบ็ นเี่ หมอื นกบั เราเปลยี่ น(อารมณ)์ เฉย ๆ แต่ไม่เห็นว่าจิตมันแว็บไหม แต่ถ้าเห็นว่าจิตไปรู้แล้วก็แว็บดับไป แว็บดับไป... อันนั้นดี ทาไมถึง เรยี กวา่ ดี ? ดนี ผี่ ลตอ้ งดดี ว้ ย ไมใ่ ชส่ ตดิ อี ยา่ งเดยี ว ผลทตี่ ามมาคอื ยงิ่ รทู้ นั จติ ทมี่ นั แวบ็ ไปโนน่ แลว้ ดบั แวบ็ มานี่แล้วดับ สภาพจิตรู้สึกอย่างไร... ยิ่งเบา ยิ่งใส ยิ่งตื่นตัว ยิ่งสงบ ยิ่งตั้งมั่นขึ้นหรือเปล่า อันนี้จะเป็นตัว รองรบั ถา้ แวบ็ ๆ แลว้ เลอื นไปหมดเลย อนั นนั้ สตจิ ะไมค่ อ่ ยดแี ลว้ เหมอื นจติ เราไหลไปตามอารมณภ์ ายนอก เฉย ๆ แต่ไม่เห็นอาการเกิดดับของอารมณ์นั้น ๆ
ทนีี้การกาหนดอารมณอ์ริยิาบถยอ่ยนอกจากทพี่ดูมาจะใหด้ใีหม้บีรรยากาศรองรบัทาความรสู้กึ ให้กว้าง ความรู้สึกแบบไหน ? ความรู้สึกที่สงบแล้ว ความรู้สึกที่ว่างแล้ว ความรู้สึกที่เบาแล้ว ความรู้สึก ที่มีความสุข ให้กว้างกว่าตัว เป็นตัวรองรับห่อหุ้ม ถ้าจิตที่ว่างเบาหรือความรู้สึกที่ว่างเบาคลุมรูปหรือกว้าง กวา่ ตวั เมอื่ ไหร่ ความรสู้ กึ ตวั นจี้ ะทา หนา้ ทรี่ บั รอู้ าการเคลอื่ นไหว เขาจะรสู้ กึ ไดเ้ รว็ ขนึ้ บางทจี ะขยบั มอื กร็ สู้ กึ พอจะหันก็รู้สึก กระพริบตาก็รู้สึก... รู้สึกทันทีตรงนี้สติจะไวขึ้น แล้วรู้สึกชัดว่ากระพริบแล้วเขาดับแบบนี้ พอขยับมือมีอาการวื๊ดแล้วดับแบบนี้ พอแปลบขึ้นมาสว่างวาบขึ้นมาแล้วเขาดับ... ตรงนี้คือการเกิดดับใน อิริยาบถย่อย
แต่ถ้าเรายังไม่ไวยังไม่มีกาลังขนาดนั้น ต้องเริ่มจากกาหนดทีละอารมณ์ทีละอย่าง ให้เน้นทีละ อาการ การที่เราเน้นทีละอาการแบบนี้จะทาให้เราสงบ ไม่วุ่นวาย แล้วจะไม่คลุกคลีกับอารมณ์ภายนอก ไม่ ถูกอารมณ์ภายนอกรบกวนทาให้สภาวธรรมที่ดี ๆ อยู่หายไป บางทีปฏิบัติอยู่ดี ๆ เดี๋ยวก็แว็บไปโน่นแว็บ ไปนี่ ไม่อยู่บ้านตัวเอง ชอบไปเที่ยวบ้านคนอื่น! ที่บอกว่าเรามีบรรยากาศของตัวเอง ปฏิบัติแล้วสร้างบ้าน ไดส้ วยงาม อยใู่ นบรรยากาศทมี่ คี วามสขุ ของตวั เอง แปบ๊ เดยี ว...แวะไปดบู า้ นคนอนื่ ไมไ่ ดส้ นใจบา้ นตวั เอง ก็เลยลืมไป บ้านเราก็คือบรรยากาศสภาพจิตที่รองรับนั่นแหละ เป็นที่อยู่ของจิตเรา
ทนีี้พอเรากวาดแบบนี้การวางตาแหนง่ของจติเราจะใหอ้ยทู่มี่อืทจี่บัไมก้วาดหรอืทปี่ลายไมก้วาด อนั นตี้ อ้ งมเี จตนานะ ถา้ เราไมม่ เี จตนา แลว้ แตเ่ ขาจะไป อนั นกี้ ไ็ มช่ ดั อกี เพราะการทไี่ มม่ เี จตนาสตเิ ราจะไมด่ ี สังเกตไหมว่า จิตที่ทาหน้าที่รู้นี่ ถ้าขาดเจตนาเมื่อไหร่สติสัมปชัญญะจะไม่ชัดเจน มันแค่รู้แบบลอย ๆ รู้แต่ มันไม่ชัดเจนไม่คมชัด คาว่า “สติสัมปชัญญะ” มีทั้งสติและรู้สึกตัว รู้ชัดในรู้ รู้ชัดถึงอาการที่กาลังปรากฏ