Page 35 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การปรับอินทรีย์
P. 35
287
ของเรา ในการตั้งจิตของเรา โดยที่ไม่ให้อารมณ์ต่าง ๆ เข้ามาขัดขวาง หรือทาให้ย่อท้อต่อการปฏิบัติ ตรงนี้ แหละ ความมุ่งมั่นในการปฏิบัติก็จะเกิดขึ้น
ทีนี้คาว่าความศรัทธา ความศรัทธาในธรรมะในคาสอนของพระพุทธเจ้า เริ่มจากการที่เราได้ยินได้ ฟัง ได้ฟังคาสอนดี ๆ ธรรมะดี ๆ ที่ครูบาอาจารย์ต่าง ๆ นามาถ่ายทอด ให้เราได้รับรู้ ได้ฟัง ได้เข้าใจ หรือ เราได้ศึกษา ได้อ่านในตาราต่าง ๆ เข้ามาแล้ว ได้เกิดความเลื่อมใสศรัทธา ในคาสอนขององค์สมเด็จพระ สัมมาสัมพุทธเจ้า อย่างหนึ่ง แต่การศรัทธาตรงนั้น เป็นการศรัทธาด้วยการรับรู้ การฟัง เป็นสุตมยปัญญา เป็นจินตยปัญญา เป็นการฟัง เป็นการพิจารณาทาความเข้าใจ
แต่การพิสูจน์ตรงที่ว่า เมื่อเราเข้าใจแล้ว เราจะพิสูจน์ธรรมะของพระพุทธเจ้านั้นได้อย่างไร ถ้าเรา มีเป้าหมายที่จะพิสูจน์ธรรมะของพระพุทธเจ้า ตรงนี้แหละเป็นสิ่งสาคัญว่า การตั้งจิตที่เราจะปฏิบัติ ที่จะ พสิ จู นธ์ รรมะของพระพทุ ธเจา้ อนั นเี้ ปน็ เบอื้ งตน้ ทสี่ า คญั ทา ไมถงึ บอกวา่ สา คญั การทมี่ เี จตนาทแี่ กก่ ลา้ หรอื เป้าหมายที่ชัดเจน จะทาให้จิตเราเข้มแข็ง ฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ ที่เข้ามาระหว่างที่เราปฏิบัติธรรม ไม่ว่าจะ เป็นวิบาก เป็นตัวนิวรณ์ ที่เราเรียกว่านิวรณ์ ๕ เข้ามาขัดขวาง เป็นความคิด ความฟุ้งซ่าน ความราคาญ เกิดขึ้น เกิดความรู้สึกมีพยาบาท เกิดความรู้สึกไม่ดี
อาจารย์ใช้คาว่า รู้สึกไม่สบายใจ ขัดเคืองใจ หงุดหงิดใจ หรือไม่พอใจเกิดขึ้น เป็นลักษณะอย่างนั้น เป็นสภาพของความรู้สึกไม่พอใจ ในอารมณ์ที่เข้ามากระทบ ทางตา หู จมูก ล้ิน กาย ใจ ทั้งเกิดขึ้นภายใน จิตใจของตัวเอง ทั้งอาศัยอารมณ์ภายนอกเข้ามาเกิดขึ้น ทาไมถึงเรียกว่านิวรณ์ ทาไมถึงเรียกว่าเป็นตัว ขัดขวาง เพราะเข้ามาแทรกแล้ว ทาให้อกุศลจิตเกิด กุศลจิตดับไป แต่การเจริญกรรมฐาน เพื่อการพิสูจน์ ธรรมะของพระพุทธเจ้านั้น เราสามารถกาจัดตรงนี้ได้
กา จดั ตรงนไี้ ดด้ ว้ ยอะไร ดว้ ยกา ลงั ของสติ สมาธิ และปญั ญาของเรานนั้ เอง ทจี่ ะกา จดั นวิ รณต์ า่ ง ๆ เหล่านี้ได้ ที่เรียกว่าอินทรีย์ ๕ หรือพละ ๕ ตรงนี้แหละ ถ้าอินทรีย์ ๕ พละ ๕ มีกาลังแก่กล้า นิวรณ์ที่เกิด ขนึ้ กจ็ ะถกู ตดั ไป ดบั ไป ไมห่ ลงใหล ไมค่ ลอ้ ยตามอารมณ์ ทเี่ ขา้ มาเปน็ ตวั ขดั ขวางธรรมะ ขดั ขวางการปฏบิ ตั ิ ธรรม เพราะฉะนั้น การที่เรากาหนดรู้ การที่เรามีเจตนากาหนดรู้อารมณ์ปัจจุบัน จึงเป็นสิ่งสาคัญ และเป็น สิ่งสาคัญอย่างยิ่งเลย ที่เรากาหนดรู้อาการพระไตรลักษณ์
การกาหนดรู้อาการพระไตรลักษณ์ เป็นวิธีการที่จะเพิ่มทั้งสติ สมาธิและปัญญาของเรา นิวรณ์เป็น อารมณท์ เี่ กดิ ขนึ้ เปน็ เรอื่ งปกตธิ รรมดา ในขณะหนงึ่ ๆ ในชว่ งระยะหนงึ่ เวลาหนงึ่ ไมว่ า่ จะเกดิ ขนึ้ เนอื่ งจาก สมาธิมากเกินไป หรือเกิดความง่วงเหงาหาวนอน ไม่ได้เกิดจากอาการจิตไม่ตื่นตัว ไม่ว่าจะเกิดจากอาการ รูปล้า รูปเหนื่อยล้า เกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็จะทาให้รูปเกิดอาการนิวรณ์ครอบงาได้เช่นเดียวกัน เกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้นนิวรณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เป็นหน้าที่ของเรา ของโยคีผู้ปฏิบัติ ที่จะต้องใส่ใจ เข้าไป กาหนดรู้ ถึงการเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป ด้วยความมุ่งมั่น ด้วยความไม่ย่อท้อ ด้วยความอดทน