Page 46 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การปรับอินทรีย์
P. 46
298
เพราะฉะนั้น การที่เราจะมีความมุ่งมั่น มีความแน่วแน่ มุ่งมั่นในการปฏิบัติ พอเราเห็นสภาวธรรม ชัดเจนอย่างนี้ ความเลื่อมใสศรัทธาในธรรมะ ในคาสอนของพระพุทธเจ้า ก็จะแนบแน่นตั้งมั่นขึ้น เพราะ ฉะนั้น การที่เราเห็นชัด เห็นสารประโยชน์อันสาคัญอย่างยิ่ง จากการปฏิบัติธรรม การละอกุศลจิตที่เกิดขึ้น ละอารมณ์ต่าง ๆ ที่เข้ามากระทบ ที่ไม่ดี ที่เกิดขึ้นมาภายในจิตใจ การทาจิตของเราให้อิสระ ไม่ถูกครอบงา ด้วยโลภะ โทสะ โมหะนั้น เป็นจิตที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง เป็นสิ่งที่มีค่าสาหรับชีวิตอย่างยิ่ง
เมื่อเราเห็นแบบนี้ เมื่อเรารู้อย่างนี้ แล้วตั้งจิตแน่วแน่ มีความมุ่งมั่นในความเพียร การเจริญ...เดิน ทางไปสเู่ ปา้ หมายเพอื่ ความดบั ทกุ ข์ กจ็ ะไมง่ อ่ นแงน่ คลอนแคลน มคี วามแนว่ แน่ ตรงนเี้ ปน็ การปฏบิ ตั ธิ รรม ที่แน่วแน่ ไม่แค่ลูบ ๆ คลา ๆ ที่เรียกว่า สีลัพพตปรามาส ทาบ้างไม่ทาบ้าง ทาไปเรื่อย ๆ อย่างนั้นแหละ ไม่มั่นใจหรอก ทาไป...อย่างนั้น นั่นคือความเหมือนกัน ทาบ้างไม่ทาบ้าง เป็นการลูบคลา ลูบ ๆ คลา ๆ ไม่ เอาจริง
แต่การที่เราปฏิบัติรู้ชัดเจนว่า สิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่เรากาลังทาอยู่นี้ เป็นสิ่งสาคัญที่สุด สาหรับชีวิต มนุษย์ผู้ที่ปรารถนาจะออกจากทุกข์ ออกจากวัฏฏสงสาร เพราะการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏสงสารนั้น ไม่ วา่ จะเปน็ กภี่ พกชี่ าติ เกดิ ขนึ้ มา...ดอี ยา่ งไรกต็ าม กย็ อ่ มเปลยี่ นแปลง ยอ่ มประสบกบั ความทกุ ข์ ความเสอื่ ม ความเป็นอนิจจัง ความเปลี่ยนแปลงของโลกต่าง ๆ ก็เปลี่ยนไป ประสบกับสิ่งต่าง ๆ ความทุกข์ เหตุเรื่อง ราวต่าง ๆ ที่ทาให้ความทุกข์ เวียนเข้ามาหาชีวิตมากมายเช่นเดียวกัน
เพราะฉะนนั้ การทเี่ ราไดเ้ หน็ รแู้ นวทางการดบั ทกุ ข์ ตามธรรมะคา สอนของพระพทุ ธเจา้ แลว้ เราควร จะตั้งจิตให้แน่วแน่ มุ่งมั่นที่จะเดินทางของเราให้เต็มที่ เต็มกาลังความสามารถ ว่าจะเป็นไปอย่างไร ธรรมะ ของพระพุทธเจ้าไม่ได้อยู่ไกลเกินเอื้อม เพราะธรรมะของพระพุทธเจ้านั้น คืออาการของรูปนามขันธ์ ๕ ไม่ ว่าจะอยู่ที่ไหน รูปนามขันธ์ ๕ ก็ติดไปตลอดเวลา เหลือแต่เราใช้สติ สมาธิ ปัญญา พิจารณาถึงอาการ การ เกิดขึ้น การตั้งอยู่ การดับไป ของสภาวธรรม ที่กาลังปรากฏเกิดขึ้นเท่านั้นเอง นั่นคืองานของเรา
เพราะฉะนั้น ที่เราปฏิบัติอยู่ อาจารย์ถึงบอกว่า ย่อลงมาให้สั้น เพื่อการปฏิบัติเพื่อความก้าวหน้า คือพิจารณาถึงอาการเกิดดับของอารมณ์ต่าง ๆ และผลที่ตามมา คือสภาพจิตใจ ยิ่งเห็นอาการเกิดดับของ สภาวธรรมที่เกิดขึ้นมา แล้วทาให้สภาพจิตใจเราเปลี่ยนไป เปลี่ยนไปอย่างไร นี่คือสิ่งสาคัญ เพราะฉะนั้น ก็ขอให้เราตั้งจิต อย่างที่เราขึ้นกรรมฐาน ให้ตั้งจิตแน่วแน่ในแนวทาง ในการปฏิบัติธรรมของเรา ไม่ว่าจะ เป็นการพิสูจน์ธรรมะ สัจธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือเพื่อไปสู่มรรคผลนิพพานก็ตาม ก็ขอให้เราตั้งจิตอย่างแน่วแน่
เหมือนอย่างที่พระองค์ทรงตั้งจิตอธิษฐาน ที่เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้ข้ามภพชาติมาตั้ง สี่อสงไขยแสนกัป ก็ยังสัมฤทธิ์ผล ยังประสบสมหวังในสิ่งที่ปรารถนา เราเป็นผู้หนึ่ง เป็นสาวกขององค์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราเป็นผู้เจริญรอยตาม เราไม่ได้เป็นผู้ค้นคว้าเอง แต่เราศึกษาธรรมะ มี แนวทางที่พระองค์ทรงแสดงไว้แล้ว