Page 26 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การน้อมพลังบุญเพื่อการอธิฐานจิต
P. 26
832
อนั ที่จรงิ การจะแก้ แกต้ อ่ อปุ สรรค แกป้ ญั หาของเราไดง้ า่ ยก็คอื วา่ เวลาเราปฏิบตั ธิ รรมนี่นะ ใหร้ วู้ ่า เวลากาหนดอารมณ์เราทาอย่างไร เราทาอย่างไรกับอารมณ์ หรือสภาวธรรมที่กาลังปรากฏ สภาวธรรมที่ กา ลงั ปรากฏคอื อะไร เมอื่ มคี วามคดิ เกดิ ขนึ้ มา แลว้ ทา อยา่ งไร เมอื่ มเี วทนาเกดิ ขนึ้ มาทา อยา่ งไร ตรงนแี้ หละ เมื่อมีลมหายใจปรากฏชัดข้ึนมาทาอย่างไร เมื่อมีผัสสะกระทบขึ้นมาแล้วทาอย่างไร ทาอย่างไรหมายถึง กาหนดอย่างไร เข้าไปรู้ หรือนั่งดูเฉย ๆ นั่งดูความเป็นไปแล้วคล้อยตามไป หรือมีสติเข้าไปกาหนดรู้ ถึง การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ของอารมณ์อันนั้น หรือนิ่งเป็นผู้ดู อันนี้คือรู้ว่า เราทาอย่างไร
ถ้าเรารู้แบบนี้ปึ๊บนี่นะ เวลาอารมณ์เหล่านั้นปรากฏเกิดขึ้นอีก เราก็จะรู้ว่า ตอนแรกอารมณ์นั้น เกิดขึ้น เรานิ่งดูเฉย ๆ อาการก็เป็นแบบนี้ จริง ๆ อาการเกิดขึ้น เขาไปเรื่อย ๆ ของเขา แต่พอมีสติ มากขึ้น เข้าไปใกล้ขึ้น เห็นเขาดับต่างไปแบบนี้ ต่างแบบนี่นะ...เข้าไปถึงอาการ เหมือนสติเข้าไปถึงปึ๊บ อาการเกิดดับเขาเปลี่ยนไปแบบนี้นะ ตรงนี้แหละที่เราจะได้รู้ว่า พอสภาวะเปลี่ยนไป พออารมณ์เปลี่ยนไป นี่นะ สมมติว่าเปลี่ยนจากลมหายใจไปเป็นความคิด พอมีความคิดเกิดขึ้นมาเยอะ ๆ เราจะรู้สึกว่า เริ่มไม่ สงบ นั่งไม่ได้แล้ว...ไม่ใช่ นั่งไม่ติด อยู่ไม่ติด เพราะความคิดเยอะรบกวน มีมารเข้ามา
นี่!มารหน้าตาเป็นอย่างไร ไม่เคยเห็นเนอะ เอ่อ! หน้าตายุ่ง ๆ ตอนที่เราเครียด เอ่อ!หน้ามาร...คิด ขึ้นมาแล้วก็ยุ่ง ๆ รู้สึกกังวลมาก ๆ หน้าตาก็เริ่มเครียดละ อ่อ!หน้ามารเป็นอย่างนั้นเอง จริง ๆ แล้ว ก็คือ วา่ ความคดิ ทเี่ กดิ ขนึ้ นนี่ ะ เราทา อยา่ งไร...ความคดิ ครงั้ นี้ พอมสี ตเิ ขา้ ไปรปู้ บ๊ึ นนี่ ะ เขาคดิ อะไร คดิ เรอื่ งอะไร นั้น อีกเรื่องหนึ่ง แต่การที่เข้าไปรู้การเกิดดับของความคิดนี่นะ อีกเรื่องหนึ่ง เพราะเรื่องที่คิด แน่นอนว่า จะมีความหลากหลาย เพราะในชีวิตเรานะมีเรื่องราวมากมายหลากหลาย มีหลายแบบหลายอย่างที่เรา รับรู้ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ที่จะเป็นปัจจัย เป็นปัจจัยให้เราคิดไปต่าง ๆ นานา
เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ตรงนั้นน่ะ เป็นปัจจัยให้เราเดี๋ยวได้ยิน เสียงนี้ คิดแบบนี้ ได้ยินเสียงนั้น คิดอย่างนั้น ได้ยินเสียงที่ชอบ คิดอีกแบบหนึ่ง ได้ยินเสียงธรรมดาก็ เฉย ๆ ไป หรือคิดอีกแบบหนึ่งไป อันนี้อย่างหนึ่ง แต่เวลาเรานั่งกรรมฐานนี่นะ เวลาเราปฏิบัติธรรม พอมี ความคิดเกิดขึ้นมาปึ๊บ ที่รู้สึกว่าเขารบกวน ที่รู้สึกว่าความคิดรบกวนนี่นะ เคยสังเกตไหมว่า บางครั้งนั่ง กรรมฐานแล้วมีความคิดเยอะมาก แต่ไม่รู้สึกว่าถูกรบกวน แต่บางขณะรู้สึกว่าความคิดไม่เยอะเท่าไหร่ เลย แต่รบกวนมากเลย
อยู่ ๆ เราเรมิ่ นงิ่ เดยี๋ วเขาแวบ็ ๆ ๆ เขา้ มาแลว้ กห็ ายไป พอนงิ่ ...แพลบ็ ๆ ขนึ้ มา แลว้ กห็ ายไป กลาย เปน็ ...เพราะอะไร นคี่ อื ปญั ญาอยา่ งหนงึ่ นะ การทเี่ ราพจิ ารณาแบบนี้ กค็ อื ตวั ปญั ญาอยา่ งหนงึ่ วา่ เหตทุ ที่ า ให้ เราคิดนี่นะ บางครั้ง...เพราะความรู้สึกอยากสงบ ไม่อยากจะคิด ตรงนี้แหละ พอความคิดเกิดขึ้นปึ๊บ เรา ก็จะ...ไม่ไหวแล้ว ถูกรบกวน ๆ เหมือนกับอีกอย่างหนึ่ง ก็คือว่าเราอยากจะรู้อารมณ์นี้อย่างเดียว อยาก จะมีสติอยู่อารมณ์หลักอย่างเดียว ไม่อยากให้มีความคิดเข้ามารบกวน จะได้มีสมาธิ
เหมือนที่เรารู้พองยุบ รู้ลมหายใจเข้าออก ๆ เพลิน ๆ กาลังมีความสุขอยู่ดี ๆ เลย ความคิดแทรก แวบ็ เขา้ มา ๆ ๆ แลว้ กร็ สู้ กึ ...รบกวนอยเู่ รอื่ ย ๆ ทา ใหไ้ มเ่ ปน็ สขุ กร็ สู้ กึ วา่ ถกู รบกวนอกี แลว้ แตท่ พี่ ดู อยเู่ สมอ