Page 11 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การพิจารณาสภาวธรรม
P. 11
319
ไม่ว่าจะเบาบางแค่ไหนก็ตาม นั่นคือหน้าที่ของผู้ปฏิบัติ ไม่เป็นดั่งใจหรือไม่เป็นอย่างที่ใจต้องการเสมอ นั่นคือความเป็นอนัตตา เพราะว่าเขาเป็นไปตามเหตุปัจจัย ไม่ใช่เป็นไปตามความอยากของเรา จาไว้ อย่างหนึ่งคือว่า สภาวธรรมต่าง ๆ เขาเป็นไปตามเหตุปัจจัย ไม่ได้เป็นไปตามความอยากของเรา
หนา้ ทขี่ องเรา คอื ศกึ ษาพจิ ารณา เขา้ ไปกา หนดรถู้ งึ ความเปน็ ไปของธรรมชาตขิ องสภาวธรรมนนั้ ๆ เท่านั้นเอง แล้วทาความเข้าใจกับสภาวธรรมที่เกิดขึ้นว่าส่งผลดี/ไม่ดีอย่างไร ทาให้จิตใจเราดีอย่างไร สภาพจติ ใจเราดขี นึ้ สตดิ ขี นึ้ สมาธดิ ขี นึ้ ไหม เราไดเ้ รยี นรอู้ ะไรจากสภาวธรรมทกี่ า ลงั ปรากฏใหเ้ หน็ อยขู่ ณะนี้ เดี๋ยวนี้ที่เป็นอารมณ์ปัจจุบัน และยิ่งเห็นถึงความไม่มีตัวตนชัดเจนมากเท่าไหร่ ยิ่งเห็นถึงความไม่มีเรา รูปนี้ไม่ได้บอกว่าเป็นเรา ความคิดไม่เป็นเรา เวทนาก็แยกเป็นคนละส่วนกับจิตที่ทาหน้าที่รู้ เสียงที่ได้ยิน ก็เกิดอยู่ในที่ว่าง ๆ... เห็นในลักษณะอย่างนั้นสภาพจิตใจเป็นอย่างไร ?
นั่นแหละวิธีการพิจารณาสภาวธรรม การศึกษาธรรมะเราจะได้เห็นความจริง ทาไมพระพุทธเจ้า ถึงบอกว่าสภาวธรรมต่าง ๆ ล้วนเป็นอนัตตา ธรรมทั้งหลายทั้งปวงเป็นอนัตตา ไม่ว่าจะเป็นรูป เสียง กลนิ่ รส สมั ผสั ธรรมารมณท์ เี่ กดิ กบั ใจ ลว้ นตงั้ อยใู่ นกฎของไตรลกั ษณ์ คอื ความเปน็ อนจิ จงั ทกุ ขงั อนตั ตา ไม่มีตัวเรา ไม่ได้บอกว่าเป็นเรา เป็นเขา เป็นใคร ตั้งอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ บังคับบัญชาให้เป็นไปเหมือน อย่างที่เราอยากให้เป็นไม่ได้ เกิดขึ้นแล้วดับไป มีแล้วหายไป เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ แต่สิ่งที่เราพึงรู้ก็คือ ผลของการปฏิบัติที่เรากาหนดรู้ส่งผลต่อสภาพจิตใจอย่างไร
เพราะตรงนี้จะเป็นตัวบอกว่า การปฏิบัตินั้นส่งผลให้ดับทุกข์ได้ไหม การปฏิบัติการมีสติกาหนดรู้ ถึงอาการเกิดดับ/รู้ถึงอารมณ์ปัจจุบันที่กาลังปรากฏอยู่ในขณะนี้เดี๋ยวนี้ ทาให้จิตผ่องใสได้ไหม การที่ตาม รู้กาหนดรู้อาการเกิดดับของอารมณ์ปัจจุบันที่กาลังปรากฏอยู่ในขณะนี้เดี๋ยวนี้ ทาให้จิตเราตั้งมั่นมากขึ้น ไหม มีสมาธิมากขึ้นไหม การที่ตามกาหนดรู้อาการเกิดดับของรูปนามของอารมณ์ต่าง ๆ ที่กาลังปรากฏอยู่ ในปัจจุบันที่ปรากฏอยู่ในที่ว่าง ๆ ในขณะนี้เดี๋ยวนี้ ทาให้จิตอิสระขึ้นได้ไหม หรืออารมณ์เหล่านั้นรบกวน จิตใจ บีบคั้นจิตใจหรือเปล่า
นั่นเป็นตัวบอกถึงการกาหนดของสภาวะ เราจะได้รู้ว่าการกาหนดรู้ในลักษณะอย่างนี้ดีอย่างไร จะได้รู้ว่าทาไมเราต้องมีสติรู้อยู่กับปัจจุบัน เพราะอารมณ์ที่เกิดขึ้นตรงนี้พ้นจากการปรุงแต่งด้วยโลภะ- โทสะ-โมหะ เพียงแต่ใส่ใจกาหนดรู้อาการของรูปนามที่กาลังเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นเสียง ภายนอก เสียงธรรมชาติ หรือเสียงที่พูดเสียงที่คุยที่ไม่ใช่เสียงของเรา ไม่ได้เกิดจากสังขารการปรุงแต่ง ของจิตเราเอง แต่การได้ยินเสียงที่เกิดขึ้นรอบ ๆ เรา อาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้ความมีตัวตนเกิด ขึ้นมา กระตุ้นให้กิเลสเกิดขึ้นมา ความไม่พอใจเกิดขึ้น แล้วปรุงแต่งไปต่าง ๆ นานา
ที่เราปรุงแต่งเพราะรสชาติ รสชาติเกิดขึ้นเพราะความมีตัวตน ความมีตัวตนเกิดขึ้นเพราะ อวชิ ชา เพราะไมร่ วู้ า่ การเขา้ ไปปรงุ แตง่ หรอื การปฏเิ สธอารมณแ์ บบนนั้ ทา ใหม้ รี สชาติ มคี วามพอใจ/ไมพ่ อใจ เกิดขึ้น และมีเราเข้าไปเสวยเข้าไปรับอารมณ์ตรงนั้น ส่วนใหญ่ก็จะเป็นอารมณ์ที่ทาให้เกิดความรู้สึกไม่ดี แต่ถ้าปรุงแต่งในเรื่องที่เป็นกุศล หรือกระทบแล้วเป็นกุศล ส่วนใหญ่จะไม่เป็นปัญหา เราจะรู้สึกว่าจิตยิ่ง