Page 12 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การพิจารณาสภาวธรรม
P. 12
320
เป็นกุศลยิ่งมีกาลังของความดีมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนใหญ่จะไม่เป็นปัญหากับผู้ที่รู้สึกดีกับอารมณ์ที่เข้ามา ก ร ะ ท บ แ ต ส่ งิ ่ ท เี ่ ป น็ ป ญั ห า ก ค็ อื ก ร ะ ท บ แ ล ว้ ร ส้ ู กึ ไ ม ด่ ี แ ส ด ง ว า่ น นั ่ ม อี ก ศุ ล เ ก ดิ ข นึ ้ ม กี เิ ล ส เ ก ดิ ข นึ ้ ภ า ย ใ น จ ติ ใ จ
อย่างที่บอกแล้วว่า ถ้าเราพอใจที่จะละ พอใจที่จะดับ เราก็จะดับได้เร็ว ด้วยการกาหนดรู้ให้ชัด ดับอะไรก่อน ? ดับความเป็นเราก่อน ดับรสชาติก่อน หรือจะดับตรงไหนก่อนดี ? ตรงนี้ต้องพิจารณาให้ดี ว่าจะดับตรงไหน ถ้าเกิดจากความเป็นเรา เผลอไปแล้ว เข้าใจผิดแล้ว ถูกความไม่รู้ครอบงาทาให้เป็นทุกข์ เกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อได้รู้แล้ว ความไม่รู้ก็หายไป เมื่อรู้ว่าเพราะเผลอไป แสดงว่าความรู้เกิดขึ้นแล้ว ความ เห็นชัดมีปัญญาเกิดขึ้นแล้ว ต่อไปคือรู้วิธีดับ รู้วิธีละ รู้วิธีแก้ นั่นคือปัญญาอย่างหนึ่งว่าเราจะหยุด จะละ จะแก้อย่างไร
พร้อมที่จะละ ละอะไร ? ละความเป็นตัวตน เอาความรู้สึกว่าเป็นเราออก ละรสชาติ ดับรสชาติที่ กา ลงั ปรากฏอยใู่ นจติ ใจของเรา มสี ตเิ ขา้ ไปกา หนดรดู้ บั รสชาตนิ นั้ ไป แลว้ กส็ งั เกตอาการเกดิ ดบั ของอารมณ์ ที่จะปรากฏใหม่ว่าเกิดดับในลักษณะอย่างไร ตรงนี้ต้องมีเจตนาและพอใจที่จะกาหนด พอใจที่จะปฏิบัติ เพราะฉะนั้น สังเกตให้ดี สภาวะตอนนี้กับที่ผ่านมาตอนกลางวันต่างกันอย่างไร อาการเกิดดับของอารมณ์ ที่เกิดขึ้นมาตอนนี้มีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร สภาพจิตเปลี่ยนไปอย่างไร... ต่อไปอาจารย์จะไม่ใช่เสียง ให้เราพิจารณาสภาวธรรมต่อไปเงียบ ๆ จนกว่าจะเห็นสมควรแก่เวลา