Page 68 - แนวทางการปฏิบัติธรรม
P. 68

62
ทนี ไี้ หน ๆ กพ็ ดู แลว้ เวลาเรานงั่ กรรมฐาน เวลาตามอาการเกดิ ดบั เกดิ ดบั ปบ๊ึ ๆ ๆ ๆ ตอ่ เนอื่ ง เรารสู้ กึ วา่ สภาวะดี เหน็ อาการเกดิ ดบั ของรปู นาม เป็นทางไปสู่มรรคผลนิพพาน แต่พอเดินจงกรม ตามอาการเกิดดับ ๆ ถามว่า ต่างกันไหม ? ไม่ต่างเลย เป็นลักษณะสภาวธรรมแบบเดียวกัน ถ้าเห็นเกิดดับ ๆ ในขณะเดิน ให้มุ่งไปที่อาการเกิดดับขณะเดินไปเลย มันก็เป็นเส้นทางเดียวกันเหมือนกับตอนที่เรานั่งกรรมฐาน เพราะฉะนั้น ใหพ้ อใจทจี่ ะกา หนดรู้ แลว้ ทนี อี้ กี นดิ หนงึ่ เวลาเดนิ แลว้ เหน็ อาการเกดิ ดบั ปึ๊บ ๆ ให้เอาสติหรือความรู้สึกเกาะติดไปกับอาการ ให้อยู่ที่เดียวกัน เวลาดับก็จะได้ดับไปพร้อมกัน เกิดก็เกิดพร้อมกัน ดับก็ดับพร้อมกัน ให้สังเกตแบบนี้ เกิดดับพร้อมกันไป แล้วลองดูว่า ถ้าทาแบบนี้แล้ว สภาพจิตเป็นอย่างไร มีอะไรเกิดขึ้นมา ? ให้พิจารณาแบบนี้ นี่คือการพิจารณา สภาวธรรมขณะเดินจงกรม ตอนแรกก็ว่าจะพูดนิดเดียวก็น่าจะจบแล้ว แต่ความแตกต่างจากนี้ยังมีอีก อาจารย์จะพูดแบบบัญญัติเบื้องต้นน้อย พูดถึงตรงนี้เยอะ... แสดงว่าพวกเราเก่งนะ เราปฏิบัติแล้วเห็นสภาวะ แบบนี้มั้ง อาจารย์พูดตรงนี้ จะได้ อ๋อ! ทาแบบนี้
ประเด็นสาคัญเลย เวลาเราปฏิบัติธรรม สภาวะอาการเขาเป็น อย่างไร ไม่มีผิด! ขอเพียงเราอย่าปรุงแต่งคิดเอาเองว่าเป็นอย่างไร ให้รู้ให้ชัด อ๋อ! ตอนนี้เขาเป็นแบบนี้ ตอนนี้ใจเราเป็นแบบน้ี... ไม่ว่า จะเปน็ อยา่ งไรกต็ ามไมม่ ผี ดิ ดใี หร้ วู้ า่ ดี ใจไมด่ กี ใ็ หร้ วู้ า่ ไมด่ ี จะไดท้ า ใจใหด้ ไี ด้ แต่ถ้าคิดว่าอันนี้ไม่ดีไม่เล่าดีกว่า ใจไม่ดีข้ามไป ไม่เล่าก็ได้ ก็ดีอย่างหนึ่ง อาจารยจ์ ะไดฟ้ งั สงิ่ ดี ๆ บา้ ง บางทใี จทดี่ ไี มค่ อ่ ยเลา่ มาเลา่ แตไ่ มด่ อี ยา่ งนนั้ ไม่ดีอย่างนี้ ที่ดี ๆ ก็ข้ามไป จริง ๆ ให้เล่าทั้งสองอย่าง ถ้าเราบอกได้ ว่าใจที่ดี ใจมันใส สงบ ตื่นตัว สว่าง ใจดีมากเลยสว่างไปหมด อาจารย์
































































































   66   67   68   69   70