Page 92 - EBOOK-semifinal_Neat
P. 92
รังสีเอกซ์
ั
�
ถูกค้นพบในป ค.ศ. 1895 โดย เร�นต์เกน ได้พบรงสี
นี�โดยบังเอิญ ในขณะที�เขาทําการทดลองเกี�ยวกับ
ั
รงสีคาโทดในห้องมืดสนิท
�
�
ั
ั
�
รงสีเอกซ์ (x-ray) เปนรงสีแม่เหล็กไฟฟาที�มีคุณสมบัติเปนทั�งคลื�น และ
อนุภาค มีช่วงความยาวคลื�น ประมาณ 0.1 – 100 อังสตอม (Å) หร�อ
0.01 – 10 นาโนเมตร (nm) แบ่งออกเปน 2 ช่วง คือ รงสีเอกซ์ที�มี
�
ั
ความยาวคลื�นสั�นกว่า 1 อังสตอม (Å) และรงสีเอกซ์ที�มีความยาวคลื�น
ั
มากกว่า 1 อังสตอม (Å)
คุณสมบัติ
1. สามารถทะลุผ่านวัตถุที�ไม่หนาจนเกินไปและมีความหนาแน่นน้อย ๆ
ได้เช่นกระดาษไม้เนื�อเยื�อของคนและสัตว์ แต่ถ้ผ่านวัตถุที�มีความหนา
แน่นมาก ๆ เช่นแพลตินัมตะกั�วกระดูกอํานาจทะลุผ่านก็จะลดลง
�
2. ไม่เบี�ยงเบนในสนามไฟฟาและสนามแม่เหล็ก
�
�
3. เปนคลื�นแม่เหล็กไฟฟาเพราะเกิดการเลี�ยวเบนผ่านผลึกทําให้เกิด
�
การแทรกสอดบนแผ่นฟล์มได้ความยาวคลื�นสั�นมาก
X-RAY TUBE CHARACTERISTIC X- CONTINUOUS X
ั
ถูกใช้ในการกําเนิดรงสีเอ็กซ์ RAYS RAYS
อิเล็กตรอนจะไหลออกมาจาก เกิดจากอิเล็กตรอนที�ถูกเรงจน อิเล็กตรอนที�ว��งชน
่
�
วัสดุที�เปนขั�วแคโธด มีพลังงานสูงมากจะสามารถ อะตอมของเปาจะสูญเสีย
�
(Filament) ที�ถูกทําให้รอน ผ่านเข้าชนกับอิเล็กตรอนวงใน พลังงานจลน์โดยเปลี�ยน
้
เมื�อจ่ายกระแสไฟฟาที�มีความ ของอะตอมทําให้อิเล็กตรอนนั�น ในคลื�นแม่เหล็กไฟฟามี
�
�
ั
ต่างศักย์สูงให้กับหลอดรงสี หลุดไปในวงโคจรถัดออกมาซึ�ง ความถี�สูงสุดการ
เอ็กซ์อิเล็กตรอนเหล่านี�จะถูก มีระดับพลังงานสูงกว่าโดดเข้า หาความถี�สูงสุด A = hc
่
�
เรงไปสู่วัสดุที�เปนขั�วแอโนดมัก มาแทนที�แล้วปล่อยพลังงาน / ev 2 = 1240 / V
�
จะเปนโลหะ) ส่วนเกินออกมา
นายปณณวิชญ ธีระพนิตนันท ม.6|3 เลขที่ 7
92