Page 30 - SRT6/2561
P. 30

“พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งเสด็จมณฑลพายัพ ทรงมี
            พระราชด�ารัสถึงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวว่าทรงมีพระราชด�าริ
            ว่าจะเสด็จพระราชด�าเนินมาประทับที่เชียงใหม่อย่างราชธานีฝ่ายเหนือเมื่อทางรถไฟ
            จากกรุงเทพฯ ถึงเชียงใหม่แล้วเสร็จ แต่กว่าทางรถไฟสายเหนือจะใช้งานได้ก็ล่วง
            แต่ต่อมาเมื่อล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ ประกาศพระราชสงครามกับเยอรมัน จึงต้องให้ “ นี่แสดงให้เห็นว่า  ทรงเป็นนักพัฒนาที่ดิน
            เข้ามาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เดิมใช้นายช่างเยอรมัน

            นายช่างชาติศัตรูออกจากราชการ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เสด็จในกรม   แต่ท่านกลับไม่ยินดีจะหาซื้อที่ดินสักผืนในหัวหินเลย
                                                                           ผมเข้าใจว่าท่านเกลียดการเอาเปรียบคนอื่น
            พระก�าแพงฯ มาสานงานที่ส�าคัญต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการขุดถ�้าขุนตานซึ่งก็ท�าได้  ไม่ว่าสร้างทางรถไฟไปกี่ร้อยกิโลเมตร ไม่มีที่ดิน
            จนส�าเร็จ ท�าให้แผ่นดินของล้านนา กับแผ่นดินของกรุงเทพ ทางด้านของกายภาพและ  ของท่านเลยสักหนึ่งตารางนิ้ว ท่านทรงกันที่ไว้
            จิตวิทยารวมเป็นแผ่นดินเดียวกัน นี่จึงเป็นงานที่ยิ่งใหญ่มาก"    ให้กับการรถไฟทั้งหมด แม้แต่ตลาดฉัตรไชยก็เป็น
                  “นอกจากนี้ พระองค์ทรงเป็นบุคคลที่มีรสนิยมดีมาก จึงทรงน�ามาใช้กับ   ของเทศบาล ไม่ใช่ของราชสกุลฉัตรชัย นี่คือความ
            การรถไฟฯ ท�าให้การรถไฟฯ ในสมัยนั้นได้ชื่อว่าเป็น The best of Asia มีบันทึกของ   ประทับใจว่า สิ่งที่ท่านทิ้งไว้ให้ลูกหลานอาจไม่ใช่
            ฝรั่งว่า รถไฟไทยเป็นรถไฟที่ดีที่สุด มีเขียนถึงกระทั่งว่า อังกฤษที่ท�ารถไฟในมลายู   ทรัพย์สินเงินทอง แต่ท่านทิ้งความซื่อสัตย์ให้เรา
            ควรมาดูงานรถไฟไทย เพราะทั้งการเดินทางสะดวกสบาย การกินอยู่หลับนอน   สามารถเงยหน้าได้ไม่อายใคร นี่คือสิ่งที่เป็นความ
            บนรถไฟก็สะดวกมาก”                                              ประทับใจของลูกหลาน เพราะเราก็รู้ว่าต้นตระกูลเรา
                  และด้วยพระวิสัยทัศน์อันยาวไกลของ  พลเอก  พระเจ้าบรมวงศ์เธอ    ไม่เคยโกงแผ่นดิน มีแต่ความซื่อสัตย์ จงรักภักดี
            กรมพระก�าแพงเพ็ชรอัครโยธิน เมื่อทรงท�างานวางรากฐานระบบรถไฟให้มั่นคงแล้ว    ท�าทุกอย่างเพื่อพระเจ้าแผ่นดินและแผ่นดิน นั่นคือ
            ยังทรงต่อยอดไปถึงงานพัฒนาพื้นที่และการท่องเที่ยวให้กับพื้นที่ที่มีเส้นทางรถไฟ   ความภาคภูมิใจว่าต้นตระกูลของเราเป็นคนดี ”
            ผ่านไปถึง โดยเฉพาะหัวหิน สถานตากอากาศแห่งแรกของไทย ที่นับจนถึงทุกวันนี้
            ก็ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
                  “ถ้ามองย้อนกลับไปจะมองเห็นว่า พระเจ้าแผ่นดินของเราเริ่มเสด็จ
            พระราชด�าเนินออกนอกอาณาเขตกรุงเทพฯ ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ทรงไปประทับ
            ที่เขาวัง จ. เพชรบุรี รัชกาลที่ 5 ทรงสร้างพระราชวังบ้านปืนที่ จ. เพชรบุรี
            สมัยรัชกาลที่ 6 เสด็จไปถึงหาดเจ้าส�าราญ และเขยิบออกไปไกลถึงชะอ�าที่เกือบถึง
            หัวหินแล้วคือพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน หากนับไปแล้วนี่เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์
            หนึ่งทางรถไฟ ซึ่งพระราชด�าริของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 คือ
            ตัดทางรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปถึงมลายูให้ได้ เมื่อผ่านมาถึงหัวหิน
            ทรงสังเกตว่า หัวหินมีศักยภาพ มีหาดทรายสวยและกว้างเหมือน
            หาดเมืองนอก น่าจะท�าเป็นเมืองตากอากาศได้ จึงทรงสร้างโรงแรม
            รถไฟ สร้างถนนจากสถานีรถไฟไปถึงหาด สร้างสนามกอล์ฟส�าหรับ
            ให้เกิดเป็นสันทนาการ และยังทรงมองว่า เมื่อคนไปหัวหินมากขึ้น
            สิ่งที่ตามมาคือเรื่องของอาหารการกินและระบบสุขาภิบาล ก็ทรง
            สร้างตลาดขึ้นมา ภายหลังได้ชื่อว่าตลาดฉัตรไชย ท่านสร้างตลาดนี้
            เพื่อให้เป็นตลาดที่ถูกสุขอนามัยไม่ใช่เป็นตลาดส่วนพระองค์ ตลาด
            ฉัตรไชยนี้ ถ้าสังเกตจะเห็นว่าซุ้มโค้งด้านหน้าตลาดประกอบด้วย
            ซุ้มโค้งจ�านวน 7 ซุ้ม สื่อว่าสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 7”
























             30

         วารสารรถไฟสัมพันธ์
   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35