Page 72 - รายงานกองแผน ม.อ.
P. 72
ี
ี
อ้างอิงท่ตกกระทบผิวด้านนอกได้ท่หลายมุมตกกระทบในเวลา ถึง 50 โวลต์ และสามารถปรับค่ากระแสได้ตั้งแต่ 0 – 20 แอมแปร์
�
�
ี
�
ิ
ี
เดียวกัน จึงไม่จาเป็นต้องมีมอเตอร์ช่วยในการเปล่ยนมุมตกกระ ด้วยวิธีกาหนดเองหรือแบบอัตโนมัต มีปุ่มเมนูลัดท่ผู้ใช้ได้กาหนด
ี
ทบ ทาให้สามารถทราบค่าความหนาได้อย่างรวดเร็วในเวลาเพียง ค่าแรงดันไฟฟ้า และกระแสไฟฟ้าท่เหมาะสมไว้ก่อนหน้าน้ถึง 9
ี
�
ี
ี
ี
ไม่ก่วินาท โดยใช้อุปกรณ์ท่ไม่ซับซ้อน และมีส่วนประกอบจานวน แบบ ทซงสามารถเลอกใช้ให้เหมาะสมกบงาน มหน้าจอที่แสดง
ี
ั
ื
่
่
ี
ึ
�
ี
�
ิ
น้อยช้น จึงทาให้มีราคาถูกและใช้งานได้ง่าย เหมาะกับการใช้งาน ค่าศักย์ไฟฟ้า และกระแสไฟฟ้าท่ได้กาหนดไว้ รวมไปถึงแสดง
�
ื
ึ
่
วดความหนา เพอตรวจสอบคณภาพ เข่น การเคลอบฟิล์มกระจก ค่าศักย์ไฟฟ้า และกระแสไฟฟ้าท่เกิดข้นจริงระหว่างเปิดเคร่อง
ื
ื
ี
ุ
ั
ผลงานวิจัย สเตอร์โฟม-โฟมยางธรรมชาติคอม
โพสิตส�าหรับสกัดสารอินทรีย์ โดย รองศาสตราจารย์ ดร.เพริศพิชญ์
คณาธารณา และคณะ คณะวิทยาศาสตร์ เป็นการพัฒนาตัว
ดูดซับแบบสเตอร์โฟมข้นคร้งแรกโดยการประยุกต์ใช้โฟมจาก
ั
ึ
้
�
ี
นายางธรรมชาติในการเตรียมตัวดูดซับโดยอาศัยรูพรุนท่ม ี
อยู่จานวนมากของโฟมยางมากักตัวดูดซับ ซ่งเป็นคอมโพสิต
ึ
�
ื
ิ
ี
ของกราฟีนออกไซต์ และพอลเอทิลนไกลคอล เม่อใช้ลวดโลหะ
บนรถยนต์ การผลิตฟิล์มเคลือบกันรอยบนหน้าจอโทรศัพท์ สอดผ่านแกนกลางของโฟมยางจะได้ตัวดูดซับท่มีลักษณะเป็นแท่ง
ี
็
ผลงานวิจัย อุปกรณ์กัดผิวด้วยไฟฟ้าสาหรับเกบกู้ คนท่ใช้งานได้ง่าย เพียงนาตัวดูดซับโฟมยางน้ใส่ลงในขวดบรรจ ุ
�
ี
�
ี
เลขหมายทะเบียน โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรากร ล่มบุตร สารตัวอย่าง และวางบนเคร่องคนแม่เหล็กไฟฟ้า ตัวดูดซับ
ิ
ื
ั
และคณะ คณะวิทยาศาสตร์ เป็นอุปกรณ์ท่ใช้งานได้ง่าย ท้งใน ก็จะหมุนพร้อมท้งสกัดสารท่สนใจวิเคราะห์ จึงเรียกตัวดูดซับน้ว่า
ี
ี
ั
ี
่
ี
และนอกสถานท รู้ผลรวดเร็ว สะดวกในการพกพา ไม่ใช้สารเคมีท ่ ี “สเตอร์โฟม” เป็นวิธีการสกัดท่ง่าย ลดค่าใช้จ่าย ลดปริมาณของ
ี
�
ิ
มีฤทธ์กัดกร่อน ทาให้ผู้ปฏิบัติงานมีความปลอดภัย ลดการนาเข้า ตัวอย่างและตัวทาละลายอินทรีย์ โดยสามารถประยุกต์ใช้สกัด
�
�
น�้ายาเคมีจากต่างประเทศ สามารถปรับค่าแรงดันไฟฟ้าได้ตั้งแต่ 0 สารอินทรีย์ปริมาณน้อยในตัวอย่างส่งแวดล้อม เคร่องสาอาง
ื
�
ิ
อาหาร และเครื่องดื่ม
2. ด้านการบริการวิชาการ
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มีคณะกรรมการนโยบาย ออกเป็น 2 เฟส คือ เฟสที่ 1 จัดท�าในปีงบประมาณ 2561 พัฒนา
ื
ื
ี
ด้านบริการวิชาการ เพ่อให้ขับเคล่อนภารกิจด้านบริการวิชาการ ระบบฐานข้อมูล 1) โครงการบริการวิชาการท่มีลักษณะว่าจ้าง
่
�
ของมหาวิทยาลัย โดยคณะกรรมการมีอานาจหน้าท 1) กาหนด มีการลงนามในสัญญา และ 2) โครงการบริการวิชาการที่มีลักษณะ
ี
�
ิ
ั
่
ื
นโยบายทิศทางการขับเคลอนภารกจด้านบริการวชาการ 2) ว่าจ้างแต่ไม่มีการลงนามในสัญญา (ใบส่งจ้าง หรือหนังสือ
ิ
�
กาหนดแนวทางในการติดตามและประเมินผลโครงการบริการ แจ้งความประสงค์) การพัฒนาระบบฐานข้อมูลเฟส 1 ศูนย์
�
ื
ั
วิชาการ 3) พิจารณาเสนอช่อบุคคลเพ่อแต่งต้งเป็นคณะ คอมพิวเตอร์ได้ดาเนินการพัฒนาเรียบร้อยแล้วและจัดอบรม
ื
่
ื
ี
ี
อนุกรรมการฝ่ายต่าง ๆ ท่เก่ยวกับภารกิจด้านบริการ 4) เร่อง ให้แก่เจ้าหน้าทคณะ/หน่วยงานทเก่ยวข้อง และเปิดระบบให้
่
ี
ี
ี
ื
�
อ่น ๆ ท่มหาวิทยาลัยมอบหมาย โดยการดาเนินการด้านบริการ คณะหน่วยงานทดลองบันทึกข้อมูลในช่วงเดือน พฤศจิกายน –
ี
วิชาการท่สาคัญในรอบปีท่ผ่านมา ได้แก่ การจัดทาระบบฐาน ธันวาคม 2561 และเปิดระบบใช้งานจริงเม่อวันท 2 มกราคม
่
ี
�
ี
�
ี
ื
่
�
ี
ข้อมูลโครงการบริการวิชาการ เป็นความร่วมมือระหว่างศูนย์ 2562 เฟสท 2 จัดทาในปีงบประมาณ 2562-2563 พัฒนาระบบ
บริการวิชาการกับศูนย์คอมพิวเตอร์ พัฒนาระบบฐานข้อมูล ฐานข้อมูล 1) โครงการบริการวิชาการท่เสนอขอรับงบสนับสนุน
ี
�
โครงการบริการวิชาการ ซ่งได้กาหนดการพัฒนาระบบฐานข้อมูล จากมหาวิทยาลัยเงินงบประมาณแผ่นดิน(ผ่านกองแผนงาน) 2)
ึ
72 รายงานประจ�าปี 2562
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์