Page 82 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 82
กูดทอง
กูดทอง สารานุกรมพืชในประเทศไทย
Davallia repens (L. f.) Kuhn
วงศ์ Davalliaceae
ชื่อพ้อง Adiantum repens L. f., Humata repens (L. f.) Diels, H. vestita
(Blume) Moor.
เฟินอิงอาศัย หรือขึ้นบนหิน เหง้าทอดนอน เส้นผ่านศูนย์กลาง 1.5-2 มม.
เกลี้ยง เกล็ดหนาแน่น รูปใบหอกถึงรูปแถบ ใบประกอบ 2 ชั้น หรือ 3 ชั้นในใบช่วง
โคนต้น รูปขอบขนานแกมรูปสามเหลี่ยมกว้าง 0.5-14 ซม. ยาว 0.6-24 ซม. ก้านใบ
ยาวได้ถึง 15 ซม. มีเกล็ดประปราย ใบประกอบย่อยใบล่างขนาดใหญ่ที่สุด รูปคล้าย กูดใบบัว: ใบสร้างสปอร์ก้านใบยาวกว่าใบไม่สร้างสปอร์ โคนเว้าลึก แผ่นใบด้านล่างมีเกล็ดและขนกระจาย
สามเหลี่ยมหรือแกมรูปขอบขนาน เบี้ยว ใบช่วงปลายขนาดเล็ก เรียบหรือจักเป็นพู กลุ่มอับสปอร์เกิดตามเส้นแขนงใบทั่วตลอดทั้งแผ่นใบด้านล่าง (ภาพ: ภูจองนายอย อุบลราชธานี - PK)
ไร้ก้านหรือแต่ละใบเชื่อมติดกัน ใบย่อยรูปขอบขนาน ปลายมน โคนเบี้ยว จักเป็นพู กูดใบพีช
หรือเรียบ ค่อนข้างหนา เกลี้ยง แต่ละใบมีกลุ่มอับสปอร์ 1-5 อัน ติดตามขอบใบ Goniophlebium persicifolium (Desv.) Bedd.
เยื่อคลุมคล้ายรูปครึ่งวงกลม กว้างประมาณ 1 มม. โคนเชื่อมติดกัน (ดูข้อมูล
เพิ่มเติมที่ นาคราช, สกุล) วงศ์ Polypodiaceae
ชื่อพ้อง Polypodium persicifolium Desv., Schellolepis persicifolia (Desv.)
พบที่มาดากัสการ์ หมู่เกาะเซเชลส์และแมสคารีน เอเชียเขตร้อน ญี่ปุ่น Pic. Serm.
ออสเตรเลีย และหมู่เกาะแปซิฟิก ในไทยพบทุกภาค ขึ้นตามป่าดิบเขาความสูง
1000-1600 เมตร เฟินขึ้นบนดินหรือเกาะหิน เหง้าทอดนอน เส้นผ่านศูนย์กลาง 2-6 มม. เกล็ด
สีน�้าตาล รูปไข่ ยาวประมาณ 5 มม. ปลายยาวคล้ายหาง ใบประกอบชั้นเดียว
เอกสารอ้างอิง รูปขอบขนานถึงรูปใบหอก ยาว 40-60 ซม. ก้านใบยาว 17-40 ซม. มีเกล็ด
Lindsay, S. and D.J. Middleton. (2012 onwards). Ferns of Thailand, Laos and ประปราย มีใบย่อยได้ถึงข้างละ 20 ใบ เรียงสลับ รูปแถบหรือรูปใบหอก กว้าง
Cambodia. http://rbg-web2.rbge.org.uk/thaiferns/
Tagawa, M. and K. Iwatsuki. (1979). Davalliaceae (Humata repens, H. vestita). 1-2 ซม. ยาว 14-20 ซม. ปลายแหลมยาวหรือยาวคล้ายหาง โคนรูปลิ่ม ขอบจัก
In Flora of Thailand 3(1): 166. ฟันเลื่อย ก้านใบย่อยยาวประมาณ 5 มม. แผ่นใบด้านล่างมีขนรูปดาวประปราย
เส้นแขนงใบแบบร่างแห กลุ่มอับสปอร์กลม จมอยู่ในเนื้อใบและเรียงตัวเป็นแถว
ทั้งสองด้านของเส้นกลางใบย่อย ไม่มีเยื่อคลุมกลุ่มอับสปอร์
พบที่เวียดนาม คาบสมุทรมาลายู สุมาตรา ซีลีเบส และฟิลิปปินส์ ในไทยพบ
ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ และภาคใต้ ขึ้นตามที่ลาดชันหรือบนต้นไม้ ความสูง
400-1500 เมตร ชื่อไทยมาจากค�าระบุชนิด persicifolium หมายถึงมีใบคล้ายใบ
ต้นพีชที่เรียวยาว
สกุล Goniophlebium (Blume) C. Presl มีประมาณ 20 ชนิด ส่วนมากพบใน
เอเชียเขตร้อน ในไทยมี 8 ชนิด ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก “gonia” มุม และ
กูดทอง: เฟินอิงอาศัย ใบประกอบ 2- 3 ชั้น ใบประกอบย่อยใบล่างขนาดใหญ่ที่สุด ไร้ก้านหรือแต่ละใบเชื่อมติดกัน “phleps” เส้นใบ ตามลักษณะของเส้นใบแบบร่างแห
กลุ่มอับสปอร์ 1-5 อัน ติดตามขอบใบ (ภาพ: ภูหินร่องกล้า พิษณุโลก; ภาพซ้าย - TP, ภาพขวา - PK)
เอกสารอ้างอิง
กูดใบบัว Lindsay, S. and D.J. Middleton. (2012 onwards). Ferns of Thailand, Laos and
Cambodia. http://rbg-web2.rbge.org.uk/thaiferns/
Parahemionitis cordata (Roxb. ex Hook. & Grev.) Fraser-Jenk. Tagawa, M. and K. Iwatsuki. (1989). Polypodiaceae (Polypodium persicifolium).
วงศ์ Pteridaceae In Flora of Thailand 3(4): 574.
ชื่อพ้อง Hemionitis cordata Roxb. ex Hook. & Grev.
เฟินขึ้นบนพื้นดิน เหง้าสั้น มีเกล็ดสีน�้าตาล เรียวแคบ ยาว 2-3 มม. มีขนปุกปุย
ใบมี 2 แบบ ใบไม่สร้างสปอร์ก้านยาวได้ถึง 8 ซม. ใบสร้างสปอร์ ก้านยาวได้ถึง
20 ซม. ด้านบนเป็นร่อง มีเกล็ดและขนปกคลุม ใบไม่สร้างสปอร์รูปไข่หรือแกม
รูปขอบขนาน ยาวได้ถึง 7 ซม. ปลายกลม โคนเว้าลึก แผ่นใบด้านล่างมีเกล็ด
และขนกระจาย ขอบมีขนหนาแน่น เส้นแขนงใบแบบร่างแห ใบสร้างสปอร์
ขนาดเล็กและบางกว่า ปลายแหลมมน กลุ่มอับสปอร์เกิดตามเส้นแขนงใบทั่ว กูดใบพีช: ใบประกอบชั้นเดียว มีใบย่อยจ�านวนมาก กลุ่มอับสปอร์กลม จมอยู่ในเนื้อใบและเรียงตัวเป็นแถวทั้งสอง
ตลอดทั้งแผ่นใบด้านล่าง ด้านของเส้นกลางใบย่อย ไม่มีเยื่อคลุมกลุ่มอับสปอร์ (ภาพ: แก่งกระจาน เพชรบุรี - PK)
พบที่อินเดีย ศรีลังกา จีนตอนใต้ ไห่หนาน ไต้หวัน พม่า ภูมิภาคอินโดจีน กูดเยื่อ, สกุล
คาบสมุทรลายู ชวา ฟิลิปปินส์ ในไทยพบทุกภาค ขึ้นตามป่าดิบแล้ง และป่าดิบชื้น
ความสูงถึงประมาณ 600 เมตร Microsorum Link
วงศ์ Polypodiaceae
สกุล Parahemionitis Panigrahi มีเพียง 2 ชนิด พบเฉพาะในเอเชีย อีกชนิดหนึ่งคือ เฟินอิงอาศัย ขึ้นบนหินหรือบนพื้นดิน เหง้าทอดเลื้อย หนา ส่วนมากมีไข เกล็ด
P. arifolia (Burm. f.) Panigrahi พบที่ศรีลังกา และชวา ชื่อสกุลหมายถึงสกุลที่ รูปคล้ายโล่ ใบสร้างสปอร์และใบไม่สร้างสปอร์เหมือนกันหรือต่างกัน ใบเรียบหรือ
คล้ายกับสกุล Hemionitis
จักแบบขนนก เส้นใบเรียงจรดกันแบบร่างแห หรือแตกเป็นง่าม ปลายมีรูปคล้าย
เอกสารอ้างอิง หยดน�้า กลุ่มอับสปอร์เรียงกระจายหรือเป็นแถวระหว่างเส้นใบ เชื่อมติดกันเป็น
Gangmin, Z. and T.A. Ranker. (2013). Pteridaceae (Parahemionitis). In Flora of ปื้นบนเส้นใบ อับสปอร์เป็นตุ่มกว้างหรือย่น
China Vol. 2-3: 235.
Lindsay, S. and D.J. Middleton. (2012 onwards). Ferns of Thailand, Laos and สกุล Microsorum มีประมาณ 40 ชนิด พบในเอเชียเขตร้อน และแอฟริกา ใน
Cambodia. http://rbg-web2.rbge.org.uk/thaiferns/
Tagawa, M and K. Iwatsuki. (1985). Parkeriaceae (Hemionitis arifolia). In Flora ไทยมี 9 ชนิด ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก “mikros” ขนาดเล็ก และ “soros” ท่อ
of Thailandnd Vol. 3(2): 191-192. หรือหลอด ตามลักษณะของเส้นใบ
62
59-02-089_001-112 Ency_new1-3_J-Coated.indd 62 3/1/16 5:13 PM