Page 39 - <4D6963726F736F667420576F7264202D20C3B8B93120BEC3D0C3D2AAE2CDA7A1D2C320E1A1E920332E646F63>
P. 39

หน้า   ๓๙

                                                         ิ
              เล่ม   ๑๓๔   ตอนที   ๔๐   ก           ราชกจจานุเบกษา                     ๖   เมษายน   ๒๕๖๐
                                ่


                      ในกรณีทีเปนทีสงสัยว่ารางพระราชบญญัติใดเปนรางพระราชบญญัติเกยวด้วยการเงน  ให้เปนอํานาจ
                                                                                  ่
                                                                                  ี
                                                                                            ิ
                                                              ็
                                                                ่
                                                     ั
                                   ่
                                ็
                              ่
                                                                           ั
                                                                                                   ็
                                           ่
                              ั
                          ่
                                                                                                ้
                                               ้
                   ่
                                                                               ิ
              ของทีประชุมรวมกนของประธานสภาผูแทนราษฎรและประธานคณะกรรมาธการสามัญของสภาผูแทนราษฎร
                       ็
                          ้
              ทุกคณะเปนผูวินิจฉัย
                      ให้ประธานสภาผูแทนราษฎรจัดให้มการประชุมรวมกนเพือพิจารณากรณีตามวรรคสอง
                                                                     ่
                                                                              ่
                                                                          ั
                                                         ี
                                       ้
                                     ่
              ภายในสบห้าวันนับแต่วันทีมีกรณีดังกล่าว
                     ิ
                                          ั
                                                                                                         ั
                                      ่
                              ่
                                                                           ็
                                                                                                  ี
                      มติของทีประชุมรวมกนตามวรรคสอง  ให้ใช้เสียงขางมากเปนประมาณ  ถ้าคะแนนเสยงเท่ากน
                                                                   ้
                            ้
              ให้ประธานสภาผูแทนราษฎรออกเสียงเพิมขึนอีกเสียงหนงเปนเสียงชีขาด
                                                 ่
                                                               ึ
                                                                  ็
                                                    ้
                                                                         ้
                                                               ่
                                                          ่
                                                                                      ี
                                                                                     ้
                                       ่
                                                                                                ้
                                                                                  ื
                                                  ั
                                                                     ้
                      มาตรา  ๑๓๕  รางพระราชบญญัติใดทีสมาชิกสภาผูแทนราษฎรหรอผูมสิทธิเลือกตังเปนผูเสนอ
                                                                                                   ็
                                                                                                      ้
                                                          ่
                     ้
                        ั
                                                                                 ้
              และในชันรบหลักการไม่เป็นร่างพระราชบัญญัติเกียวด้วยการเงิน  แต่สภาผูแทนราษฎรได้แก้ไขเพิมเติม
                                                                                                     ่
                                                                ้
              และประธานสภาผูแทนราษฎรเห็นเองหรอมสมาชิกสภาผูแทนราษฎรทักท้วงต่อประธานสภาผูแทนราษฎร
                              ้
                                                    ี
                                                 ื
                                                                                                ้
                                                                    ่
                                                                                                ้
                                                   ่
                                        ี
                                                 ็
                      ้
              ว่าการแกไขเพิมเติมนันทําให้มลักษณะเปนรางพระราชบัญญัติเกยวด้วยการเงน  ให้ประธานสภาผูแทนราษฎร
                          ่
                                                                               ิ
                                                                    ี
                                ้
                   ั
               ่
                                   ่
              สังระงบการพิจารณาไว้กอน  เพื่อดําเนินการต่อไปตามมาตรา  ๑๓๔  วรรคสอง  วรรคสาม  และวรรคสี   ่
                      ในกรณีทีทีประชุมรวมกนตามวรรคหนึงวินิจฉัยว่า  การแกไขเพิมเติมทําให้รางพระราชบญญัตินัน
                                                                                        ่
                                           ั
                                ่
                                                                         ้
                                                                             ่
                              ่
                                                                                                  ั
                                       ่
                                                                                                         ้
                                                        ่
               ี
                                                        ิ
                                                                                        ่
                                                                                                         ้
                                                                          ้
              มลักษณะเป็นรางพระราชบญญัติเกยวด้วยการเงน  ให้ประธานสภาผูแทนราษฎรส่งรางพระราชบญญัตินัน
                                      ั
                                             ี
                           ่
                                                                                                  ั
                                             ่
                                                                           ้
                               ี
                                ั
                        ั
              ไปให้นายกรฐมนตรรบรอง  ถ้านายกรัฐมนตรีไม่ให้คํารับรอง  ให้สภาผูแทนราษฎรดําเนินการแก้ไขเพือมิให้
                                                                                                     ่
                                                 ั
               ่
                                                        ี
                                                        ่
              รางพระราชบญญัตินันเปนรางพระราชบญญัติเกยวด้วยการเงน
                                ้
                                      ่
                                   ็
                          ั
                                                                   ิ
                                                                     ่
                      มาตรา  ๑๓๖  เมอสภาผูแทนราษฎรได้พิจารณารางพระราชบญญัติและลงมติเห็นชอบแล้ว
                                        ่
                                                                                ั
                                        ื
                                               ้
                     ้
                                                        ้
              ให้สภาผูแทนราษฎรเสนอร่างพระราชบัญญัตินันต่อวุฒิสภา  วุฒิสภาต้องพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ
                                                                ั
                                                                                                         ิ
                              ็
              ทีเสนอมานันให้เสรจภายในหกสิบวัน  แต่ถ้ารางพระราชบญญัตินันเปนรางพระราชบญญัติเกยวด้วยการเงน
                                                                      ้
                                                                            ่
                                                                          ็
                                                                                              ี
                                                     ่
                                                                                       ั
               ่
                                                                                              ่
                        ้
                                                                       ้
              ต้องพิจารณาให้เสรจภายในสามสบวัน  ทังนี  เว้นแต่วุฒิสภาจะไดลงมติให้ขยายเวลาออกไปเป็นกรณีพิเศษ
                               ็
                                                  ้
                                           ิ
                                                    ้
               ่
                                                                                              ่
              ซึงต้องไม่เกินสามสิบวัน  กําหนดวันดังกล่าวให้หมายถึงวันในสมัยประชุม  และให้เริมนับแต่วันที  ่
                          ั
              รางพระราชบญญัตินันมาถึงวุฒิสภา
                                ้
               ่
                                         ึ
                                              ่
                                         ่
                                                                 ่
                                                                    ู
                                                                                                 ั
                      ระยะเวลาในวรรคหนง  ไมให้นับรวมระยะเวลาทีอยในระหว่างการพิจารณาของศาลรฐธรรมนูญ
                                                                    ่
              ตามมาตรา  ๑๓๙
                                                                                          ่
                      ถ้าวุฒิสภาพิจารณาร่างพระราชบญญัติไมเสรจภายในกาหนดเวลาตามวรรคหนึง  ให้ถือว่าวุฒิสภา
                                                          ่
                                                             ็
                                                   ั
                                                                      ํ
                                  ่
              ได้ให้ความเห็นชอบในรางพระราชบญญัตินัน
                                             ั
                                                   ้
                                    ู
                                    ้
                              ่
                      ในกรณีทีสภาผแทนราษฎรเสนอรางพระราชบญญัติเกยวด้วยการเงนไปยังวุฒิสภา  ให้ประธาน
                                                    ่
                                                                                  ิ
                                                                      ่
                                                               ั
                                                                      ี
                   ้
                                                                                                  ั
                                                         ็
              สภาผูแทนราษฎรแจ้งให้วุฒิสภาทราบและให้ถือเปนเด็ดขาด  หากมได้แจ้ง  ให้ถือว่ารางพระราชบญญัตินัน
                                                                                                         ้
                                                                        ิ
                                                                                        ่
                ่
                  ็
              ไมเปนรางพระราชบญญัติเกยวด้วยการเงน
                     ่
                                      ี
                                      ่
                                                  ิ
                               ั
                                                                              ็
                                                                      ั
                                        ื
                                        ่
                      มาตรา  ๑๓๗  เมอวุฒิสภาได้พิจารณาร่างพระราชบญญัติเสรจแล้ว
                      (๑)  ถ้าเห็นชอบด้วยกบสภาผูแทนราษฎร  ให้ดําเนินการต่อไปตามมาตรา  ๘๑
                                           ั
                                                 ้
   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44