Page 3 - BodinMagazine66-01
P. 3

ประวัติ





                                                                เจ้าพระยาบดินทรเดชา


                                                                             (สิงห์ สิงหเสนี)








        ช�ติกำ�เนิด                              ด้�นก�รทูตและก�รเมืือง
          เป็นบุตรคนที่สี่ของเจ้าพระยาอภัยราชา (ปิ่น) กับท่านผู้หญิง    ท่านมีความสามารถในการเจรจาโต้ตอบเชิงการทูต ซึ่่่งถือว่าเป็นส่วนสำาคัญ ในการทำาสงคราม
        ฟัก บรรพบุรุษของท่านเป็นพราหมณ์ชื่อสิริวัฒนะรับราชการ  เพราะจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติโดยไม่ต้องใช้กำาลัง เช่น การเจรจาปล่อยญวนที่เมือง
        ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชตำาแหน่งราชปุโรหิต บิดา  โพธิสัตว์ เจรจาปัญหาญวนเกลี้ยกล่อมเขมรและการแต่งตั้งพระองค์ด้วงไปปกครองเขมร
        ของท่านเป็นข้าหลวงเดิมในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธ  ด้�นเศรษฐกิจ
        ยอดฟ้าจุฬาโลกและเป็นสมเด็จเจ้าพระยาวังหน้าในสมัย    ท่านสามารถแก้ปัญหาภาวะเศรษฐกิจแตกสลายของเขมรในช่วงการทำาสงครามติดต่อกันถ่ง 14 ปี
                                                                    ่
        พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เกิดวันพุธ เดือนยี่  โดยการหาเสบียงอาหารให้เพอบรรเทาความขาดแคลน ราษฎรทำนาไม่ได้ผลก็กราบบังคมทูลพระบาท
                                                                    ื
                                                                                                         ุ
                                                                  ู
                                                         ั
                                                         ่
                                                                    ่
                             ี
                                                                    ่
        แรมห้าค่ำ ปีมะแม ตรงกับวันท่ 11 มกราคม พ.ศ.2318   สมเด็จพระนงเกล้าเจ้าอย่หัวซึ่งพระองค์ก็จะโปรดยกเว้นไม่เก็บค่านา แม้แต่การจัดหาต่มใส่น้ำให้เขมร
                            ี
                                  ั
                                        ่
                           ุ
         ี
             ิ
                       ุ
                                        ่
                                                      ่
                                                      ื
        ทบ้านรมคลองรอบกรงธนบรด้านตะวนออกซึ่งปัจจบน  ทเป็นเรองเล็กน้อย แต่ท่านกยังเอาใจใส่ไม่ละเลย
                                                  ่
                                            ุ
                                             ั
                                                  ี
                                                                    ็
         ่
        เป็นเขตกรุงเทพมหานคร (คือบริเวณสะพานช้างโรงส ี  ด้�นรักษ�คว�มืสงบเรียบร้อย
        หน้ากระทรวงมหาดไทย)                        ท่านได้รับมอบหมายจากพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวให้ดูแลเมืองเขมร ซึ่่อมแซึ่มป้อม
        ก�รศึกษ�                                 ค่ายเมืองพระตะบอง สำาหรับใช้เป็นฐานกำาลังของไทยที่จะคุมเชิงและควบคุมเขมรในความสนับสนุน
          ได้รับการศ่กษาตามแบบบุตรหลานขุนนางซึ่่งสันนิษฐานว่า  ของพระองค์ด้วง กษัตริย์ของเขมรโดยเอาใจใส่ตรวจตราดูแลความมั่นคงและปลอดภัยให้และจัดการ
                                     ่
        ศ่กษาอักขรสมัยในสำานักพระวันรัตน์ (ทองอยู่) วัดบางหว้าใหญ่   สร้างเมืองอุดงมีชัย มีการขุดคูเมืองเชิงเทินสร้างป้อมค่าย ให้แข็งแรง ท่านนำานโยบายห้ามสูบฝิ่น
        เช่นเดียวกับพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย บุคลิกลักษณะ  ซึ่ื้อขายฝิ่นไปใช้ในเขมรเพื่อป้องกันปัญหาโจรผู้ร้าย ท่านจะกวดขันห้ามปรามเมื่อจับได้จะทำาโทษอย่างหนัก
        ท่านเป็นผู้เข้มแข็ง เฉียบขาด อดทน เฉลียวฉลาด มีไหวพริบ   ไม่เว้นแม้แต่บุตรของท่าน
        ซึ่ื่อสัตย์ จงรักภักดี มีความละเอียดรอบคอบและเข้าใจบุคคลอื่น  ด้�นก�รทำ�นุบำ�รุงพระพุทธศ�สน�
        รู้เท่าทันเหตุการณ์ รับราชการในสมัยรัชกาลที่ 1 โดยบิดาได้    ท่านสืบทอดพระพุทธศาสนา ดังนี้
        นำาข่้นถวายตัวเป็นมหาดเล็กในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้า  สร้างวัดใหม่ ได้แก่
        กรมหลวงอิศรสุนทร ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นจมื่น  •วัดชัยชนะสงคราม (วัดต่ก เวิ้งนครเกษม)
        เสมอใจราช ในสมัยรัชกาลที่ 2 ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์  •วัดเทพลีลา (วัดเทพลีลา หรือวัดต่กคลองตัน)
        เป็นพระพรหมสุรินทร์เจ้ากรมพระตำารวจขวา เมื่อกลับจากรับ  •วัดพระยาทำา (วัดกระโดน) อ.กบินทร์บุรี จ.สระแก้ว
        ราชการที่เมืองเขมรได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น พระยา  •วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี
        ราชโยธา และต่อมาได้เป็นพระยาเกษตรรักษา ว่าการกรมนา   •วัดโรงเกวียน อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี
        ฝ่ายพระราชวังบวร ในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้รับพระราชทาน  •วัดตาพระยา อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี
        บรรดาศักดิ์โดยลำาดับจาก พระยาราชสุภาวดี เป็น เจ้าพระยา  •วัดหลวงบดินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.สระแก้ว
        ราชสุภาวดี ว่าที่สมุหนายก และเป็นเจ้าพระยาบดินทรเดชา  •วัดที่เมืองพระตะบอง และเมืองอุดงมีชัย
        สมุหนายก ในขณะที่ท่านมีอายุ 53 ปี        ปฏิสังขรณ์วัดที่ชำารุดทรุดโทรม ได้แก่
        ผลง�น                                    •วัดจักรวรรดิราชาวาส (วัดสามปลื้ม)
          ในฐานะแม่ทัพ ท่านสามารถนำาทัพออกรบจนประสบผล  •วัดปริณายก (วัดพรหมสุรินทร์)
        สำาเร็จ ดังเหตุการณ์ต่อไปนี้             •วัดช่างทอง (ที่เกาะเรียน อยุธยา)
        •ปราบกบฏเจ้าอนุวงศ์ เวียงจันทน์ พ.ศ. 2369-2372  •วัดวรนายกรังสรรค์ (เขาดิน) อยุธยา
        •สงครามระหว่างไทยกับญวน พ.ศ. 2376-2390   •วัดศาลาปูน กรุงเก่า
        •ปราบการจลาจลในเขมร พ.ศ. 2376-2392       •วัดอรัญญิก แขวงเมืองสระบุรี
                                                 อสัญกรรมื
                                                   ถ่งแก่อสัญกรรมเมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน 2392 ด้วยโรคปัจจุบัน (อหิวาตกโรค) ที่บ้านริม
                                                 คลองโอ่งอ่าง (บริเวณเชิงสะพานหันกับบ้านดอกไม้) สิริอายุ 72 ปี ในขณะที่ท่านดำารงตำาแหน่งเป็น
                                                 สมุหนายกและแม่ทัพใหญ่ของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
   1   2   3   4   5   6   7   8