Page 18 - เครือข่ายไร้สาย
P. 18

3. มาตรฐาน IEEE 802.11g หรือ Class g จะใช้คลื่นความถี่ 2.4 GHz ใน


               การรับส่งสัญญาณข้อมูลไร้สาย ท าความเร็วสูงสุดที่ 54 Mbps

               ได้รับการพัฒนาจากการน าเอาเทคโนโลยี OFDM ของ 802.11a มาพัฒนาจน


               ท าให้ได้ความเร็วที่สูงกว่ามาตรฐาน 802.11b ซึ่ง 802.11g สามารถปรับระดับ


               ความเร็วในการสื่อสารลงเหลือ 2 Mbps ได้ตามสภาพแวดล้อมของเครือข่ายที่


               ใช้งาน จุดเด่นที่ส าคัญของ 802.1 g ก็คือสามารถใช้งานร่วมกับ 802.11b ที่มีอยู่

               แล้วได้ มาตรฐานนี้เป็นที่ยอมรับจากผู้ใช้เป็นจ านวนมากและก าลังจะเข้ามา


               แทนที่ 802.11b ในอนาคตอันใกล้


                       นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นนี้ มีบางผลิตภัณฑ์ใช้เทคโนโลยีเฉพาะตัวเข้า

               มาเสริม ท าให้ความเร็วเพิ่มขึ้นจาก 54 Mbps เป็น 108 Mbps แต่ต้องท างาน


               ร่วมกันเฉพาะอุปกรณ์ที่ผลิตจากบริษัทเดียวกันเท่านั้น ซึ่งความสามารถนี้เกิด


               จากชิป (Chip) กระจายสัญญาณของตัวอุปกรณ์ที่ผู้ผลิตบางรายสามารถเพิ่ม


               ประสิทธิภาพการรับ-ส่ง สัญญาณเป็น 2 เท่าของการรับส่งสัญญาณได้ แต่

               ปัญหาของการกระจายสัญญาณนี้จะมีผลท าให้อุปกรณ์ไร้สายในมาตรฐาน


               802.11b มีประสิทธิภาพลดลงด้วยเช่นกัน


                       4. มาตรฐาน IEEE 802.11n หรือ Class n จะใช้คลื่นความถี่ คือ 2.4 GHz

               และ 5 GHz ในการรับส่งสัญญาณข้อมูลไร้สาย ท าความเร็วสูงสุดที่ 150 Mbps


               และ 300 Mbps มีความสามารถในการส่งคลื่นสัญญาณได้ระยะประมาณ 70


               เมตรในโครงสร้างปิด และ 250 เมตรในที่โล่งแจ้ง เพิ่มความสามารถในการกัน


               สัญญาณรบกวนจากอุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้ความถี่ 2.4GHz เหมือนกัน และ

               สามารถรองรับอุปกรณ์มาตรฐาน IEEE 802.11b และ IEEE 802.11g ได้ ซึ่ง


               ช่วงระยะหลังได้มีการพัฒนาการส่งสัญญาณแบบ "Dual-Band" หรือการใช้


               คลื่นความถี่ในย่าน 2.4 GHz และ 5 GHz ในการรับส่งสัญญาณ (จะใช้เสา
   13   14   15   16   17   18   19   20