Page 155 - ประวัติศาสตร์จานเดียวพม่า
P. 155
ประวัติศาสตร์จานเดียว
เดียวกับที่ คลีเมนท์์ อัตต์ลี (Clement Attlee) นายกรัฐมนตรีอังกฤษเชื้อเชิญ
ให้อองซานและคณะเดินทางไปกรุงลอนดอนเพื่อเจรจา แต่อองซานกับคณะ
ยืนยันที่จะขอเจรจานอกจักรวรรดิอังกฤษ โดยสถานการณ์เริ่มเปลี่ยนแปลง
เนื่องจากชาวพม่าไม่ต้องการสิ่งใดจากอังกฤษอีกต่อไปแล้วนอกเหนือจาก
เอกราช และอองซานกลายเป็นตัวแทนของชาวพม่าทั้งประเทศในการเดิน
ทางไปเจรจากับอังกฤษเพื่อทวงคืนอิสรภาพ
นอกเหนือจากความขัดแย้งระหว่างอองซานกับถั่นทุนแล้ว อูซอ
อดีตผู้นำาคนสำาคัญของ AFPFL เพื่อนร่วมรบของอองซานก็มีท่าทีเป็น
ปฏิปักษ์ต่อเขาอย่างชัดแจ้ง อูซอเคยดำารงตำาแหน่งนายกรัฐมนตรีของพม่า
ในช่วงที่อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ เขาถูกจับได้ว่าร่วมมือกับญี่ปุ่นใน
ช่วงสงครามโลกเพื่อล้มล้างอังกฤษจึงถูกเนรเทศไปแอฟริกา ขณะที่อองซาน
กลับไม่ได้รับการลงโทษใดๆ เพราะอองซานก่อตั้ง AFPFL ดำาเนินงานใต้ดิน
ซึ่งอูซอคิดเสมอว่านั่นคือความไม่ยุติธรรม สำาหรับเขาที่พยายามทำาทุกอย่าง
เพื่อเอกราชของพม่าเสมอมา เมื่อสงครามสงบลง อูซอกลับคืนสู่พม่าและ
พยายามกลับเข้ามามีบทบาททางการเมืองอีกครั้ง เขาถูกลอบสังหารครั้ง
หนึ่งซึ่งเขาคิดว่าเป็นแผนการของอองซานและ AFPFL
อูซอและพวกจึงวางแผนที่จะยึดอำานาจก่อนที่จะมีการประกาศ
เอกราช และคนที่ยืนขวางทางการขึ้นสู่อำานาจของเขาคืออองซาน วันที่ ๑๙
กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๐ หน่วยกล้าตายของอูซอ บุกเข้าไปในห้องประชุม
คณะรัฐมนตรี ภายในรัฐสภาพม่า จัดการสังหารอองซานและคณะรัฐมนตรี
อีกหกคนจนเสียชีวิต ข่าวการเสียชีวิตของอองซานสร้างความเศร้าโศกให้กับ
ชาวพม่าทั้งประเทศ เขาถูกขนานนามให้เป็น บิดาแห่งเอกราชพม่า แต่กลับ
ไม่มีโอกาสได้ชื่นชมอิสรภาพของประเทศ อูซอถูกจับกุมและถูกพิพากษา
ประหารชีวิต
การลอบสังหารอองซานก่อให้เกิดความวิตกว่าอังกฤษจะใช้เป็น
๑๔๗
