Page 186 - ประวัติศาสตร์จานเดียวพม่า
P. 186
ประวัติศาสตร์จานเดียว
เดิมอีกไม่ได้เสียแล้ว พม่าต้องเปิดประตูบ้านรับความเป็นจริงว่าโลกได้
เปลี่ยนไป การที่รัฐบาลทหารจะยังคงบริหารประเทศก็ไม่ได้ทำาให้นานาชาติ
ข้องใจ เพียงแต่พวกเขาต้องทำาหน้าที่อย่างโปร่งใส ปราศจากการแสวงหาผล
ประโยชน์ ไม่ใช้อำานาจสั่งการตามอำาเภอใจและไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งก็
ยังไม่เคยเห็นรัฐบาลทหารประเทศไหนจะไม่โดนด่าเสียที ถ้าภาพลักษณ์ของ
รัฐบาลออกมาดูดีหรือไม่กระทำาการรุนแรงทั้งทางกฎหมายหรือการกระทำา
นานาชาติก็คงไม่ข้าไปข้องเกี่ยวเพราะถือว่าเป็นกิจการภายในของพม่าเอง
ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องปรับเปลี่ยนนโยบายและปรับโฉมหน้าประเทศเสียใหม่
ให้ดูเข้าท่า
หลังการเลือกตั้งอัปยศในปี พ.ศ. ๒๕๓๓ รัฐบาล SLORC ก็ดำาเนิน
แผนฟื้นฟูประเทศเพื่อสร้างภาพด้านสวยให้ตัวเองด้วยส่วนหนึ่ง พม่าเปิด
ประเทศมากยิ่งขึ้นแต่ยังอยู่ภายใต้การกำากับดูแลจากกองทัพอย่างใกล้ชิด
พม่ากลายเป็นดินแดนที่นานาชาติอยากจะเข้ามาทำาธุรกิจด้วยโดยเฉพาะ
กับทรัพยากรธรรมชาติที่มีมากล้น แต่ความไม่เสถียรทางการเมืองก็ยังทำาให้
นักธุรกิจยังไม่กล้าเข้ามาลงทุน เกรงว่าจะเกิดซ้ำารอยเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๕ ที่
กองทัพเข้ายึดอำานาจและริบกิจการต่างชาติไปบริหารเองเสียดื้อๆ แต่ใน
ที่สุดพม่าเองก็ไม่อาจต้านกระแสเศรษฐกิจทุนนิยมได้ไหว นักธุรกิจจาก
ภายนอกก็ยอมเข้ามาลงทุนเพราะผลประโยชน์มันคุ้มค่าที่จะเสี่ยง
การละเมิดสิทธิมนุษยชนและการบริหารประเทศด้วยประชาธิปไตย
แบบแหว่งๆ ยังคงดำาเนินไปเรื่อยโดยไม่ได้สนใจกับเสียงเรียกร้องจากนอก
ประเทศ รัฐบาล SLORC ทำาทีเป็นหูทวนลม มีแรงประนามได้ก็ทำาไปเถิด ฉัน
ก็จะเป็นไปของฉันแบบนี้ แต่ก็เปิดประตูรับการลงทุนจากภายนอกซึ่งต่อคิว
มาเพียบ ถ้าจะถามเอาประชาธิปไตยเต็มใบล่ะก็คงหาไม่ได้ที่พม่า หลายชาติ
ที่พยายามทำาตัวเป็นพระเอกก็แค่ลมปาก พม่าก็ยังคงเป็นพม่าในแบบที่เป็น
เรื่อยมาก อองซาน ซูจีที่อุตส่าห์ได้รับการยกย่องเป็นไอดอลของการเรียก
๖