Page 7 - โครงการทงเลม สมบรณ2_Neat
P. 7
การผลิตในปัจจุบันเป็นการผลิตตามคําสั่งของลูกค้า โดยลูกค้าจะสั่งซื้อล่วงหน้าอย่างน้อย 6
เดือน ในช่วงที่เศรษฐกิจดีจะมีการสั่งซื้อข้ามปี ลูกค้าส่วนใหญ่จะอยู่ในอุตสาหกรรมประเภทเครื่องดื่ม
โดยเฉพาะเครื่องดื่มชูกําลัง จะใช้ขวดแก้วในการบรรจุทั้งหมด ขณะที่เครื่องดื่ม อื่นหันไปใช้ขวดประเภท
อื่นทดแทนขวดแก้วมากขึ้น ดังนั้น การแข่งขันกันในระหว่าง ขวดแก้วจึงมีน้อย ส่วนมากเป็นการแข่งขัน
ด้านราคา ด้านการส่งมอบที่ตรงเวลา และความสามารถที่จะผลิตตอบสนองให้เพียงพอกับความต้องการ
ของลูกค้า แต่การแข่งขันกับบรรจุภัณฑ์
ประเภทอื่นที่ใช้ทดแทนขวดแก้วมีค่อนข้างมาก โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์โลหะ เช่น กระป๋องโลหะ
และบรรจุภัณฑ์พลาสติก เช่น ขวด PET (Polyethylene Terephthalate) ที่ใช้กับสินค้าน้ำมันพืช น้ำ
ดื่ม และน้ำอัดลม ซึ่งเข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาดปีละประมาณร้อยละ 15 ของบรรจุภัณฑ์แก้ว
เนื่องจากมีราคาถูกกว่าและมีความทนทาน สําหรับการแข่งขันกับขวดแก้วนําเข้ามีน้อย เนื่องจาก ราคา
ขวดแก้วนําเข้าสูงกว่ามาก เพราะมีคุณภาพต่างกัน และต้องใช้ความระมัดระวังในการขนส่งสูง
ปัจจุบันการใช้ขวดแก้วในอุตสาหกรรมเบียร์และสุรามีอัตราส่วน ร้อยละ 30 อุตสาหกรรม
เครื่องดื่มชูกําลัง ร้อยละ 27 น้ำอัดลม ร้อยละ 10 อุตสาหกรรมอาหารและยา ร้อยละ 11 เครื่องดื่ม
เกลือแร่ ร้อยละ 9 และอุตสาหกรรมอื่นๆ ร้อยละ 13 ในอนาคตคาดว่าความต้องการใช้ขวดแก้วยัง มีอยู่
สูง โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 10-12 ต่อปี
แนวโน้มการผลิตขวดแก้วจะผลิตเพื่อจําหน่ายแก่ผู้ใช้ภายในประเทศเป็นส่วนใหญ่
ผู้ประกอบการส่วนใหญ่คาดว่าการผลิตขวดแก้วยังคงมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นในอัตราประมาณร้อยละ 10
ต่อปี โดยเติบโตควบคู่ไปกับการขยายตัวของอุตสาหกรรมน้ำอัดลม สุรา และเครื่องสําอาง ประกอบกับ
การตื่นตัวในเรื่องสิ่งแวดล้อม ทําให้ผู้บริโภคหันมานิยมใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นขวดน มากขึ้น
1.2 บรรจุภัณฑ์โลหะ
บรรจุภัณฑ์โลหะมีสัดส่วนการผลิตร้อยละ 20 สามารถแบ่งได้เป็น กระป๋องทําจาก และ
อะลูมิเนียม บรรจุภัณฑ์ชนิดนี้ทนต่อความร้อนและความดันสูง สามารถปกป้องสินค้า ได้ดี แต่มักพบ
ปัญหาเรื่องสนิมเมื่อมีความชื้น และปัญหาการสึกกร่อนบริเวณฝาปิดหรือบริเวณ การเชื่อม โลหะที่นำมา
ผลิตมี 2 ประเภท คือ แผ่นเหล็กวิลาสที่เคลือบดีบุกกับเคลือบแล และแผ่นอะลูมิเนียม
บรรจุภัณฑ์โลหะมีหลายรูปแบบ ได้แก่
กระป๋องโลหะ ซึ่งจะจัดจําหน่ายให้แก่ผู้ประกอบการในประเทศเกือบทั้งหมด โดยเฉพาะ
ในอุตสาหกรรมอาหารมีความต้องการใช้กระป๋องโลหะมากที่สุด ประมาณร้อยละ 70 ของความต้องการ
ใช้ทั้งหมด โดยนําไปบรรจุอาหารทะเล และผัก ผลไม้ ในสัดส่วน ใกล้เคียงกัน ประมาณร้อยละ 40 ใช้
บรรจุเครื่องดื่มและนม ร้อยละ 15 และร้อยละ 5 ตามลําดับ ส่วนกระป๋องจากแผ่นเหล็กโครเมียมนิยม
การบรรจุภัณฑ์ 4