Page 19 - YEC M
P. 19

โบรคเกอร์นักเทรด


                                                                                                  ระบบกลไกตลาดที่นี่ได้สร้างกลุ่มโบรคเกอร์ที่เรียกว่านายฮ้อย
 แห่งตลาดนัดวัว-ควาย บ้านหนองกุงกระต่าย                                                    เหยียบเชือกขึ้นมา  ส่วนใหญ่มักเป็นชาวบ้านที่อยู่ใกล้ละแวกตลาดพวกเขา
                                                                                           แวะเวียนเข้ามาที่ตลาดเป็นเวลาช้านานสร้างเครดิตและความน่าเชื่อถือแก่
       ฝุ่นตลบมองเห็นแต่ไกล รถบรรทุกวิ่งขวักไขว่ ฝูงวัว-ควายนับพันร้องสนั่นปนเป ที่นี่     นายฮ้อยผู้ขายที่มาจากแดนไกล  หากเจ้าของสัตว์มือแรกมาถึงแต่เช้าและ
 คือ“ตลาดนัดโค-กระบือบ้านหนองกุงกระต่าย”  ต.  สันป่าตอง  อ.นาเชือก  จ.มหาสารคาม            ไม่อยากออกไปตากแดดเพื่อท�าการซื้อขายเอง   นายฮ้อยเหยียบเชือกคือ
 จุดรวมพลของพ่อค้าวัว-ควายหรือนายฮ้อยที่ต่างพากันน�าเอาสัตว์ของตนมาซื้อขาย  แลก            บริการโบรคเกอร์ชั้นดี  เพียงผู้ขายแจ้งราคาที่อยากได้แล้วรับมัดจ�าไว้ตัวละ

 เปลี่ยนกันที่นี่ในทุกวันที่ 5,10,15,20,25และ30 ของทุกเดือนต่อเนื่องกันทั้งปี เหล่านายฮ้อย  ร้อยถึงสองร้อยบาท  ที่เหลือก็แค่หาร่มไม้ที่ลมพัดผ่านเย็นๆแถวรอบนอก
 ผู้ขายส่วนใหญ่เป็นคนแถบภาคอีสานพวกเขารวบรวมสัตว์เหล่านี้จากมือเกษตรกรรายเล็ก              ตลาดแล้วแขวนเปลญวณรอฟังข่าวดีได้เลย  นายฮ้อยเหยียบเชือกก็จะเริ่ม
 รายน้อยบ้างซื้อขาดบ้างฝากมา  ขนกันด้วยรถปิ๊กอัพรถหกล้อมุ่งหน้ามาที่นี้อย่างกระตือรือ      ภาระกิจของเขาด้วยการจูงวัว-ควายเหล่านั้นเข้าสู่บริเวรตลาด การเก็งก�าไร
 ล้น  เมื่อมาถึงสัตว์ทุกตัวจะต้องเสียค่าเข้าตลาดตัวละ 20 บาทและทุกตัวจะต้องถูกน�าไป        ระยะสั้นก็เกิดขึ้นทันที  พวกเขาเล่าให้ฟังว่าการขายแบบนี้ท�าก�าไรได้เสมอ
 ฉีดวัคซีนและออกใบรับรองจากปศุสัตว์อ�าเภอเสียก่อน  ไม่เช่นนั้นอย่าได้หวังว่าจะมีคนซื้อ     อย่างน้อยก็ตัวละสองร้อยบาทและบ่อยครั้งที่พวกเขาท�าก�าไรได้ถึงหมื่น
 หรือถ้ายังฝืนซื้อก็ขนออกตลาดได้ไม่เกิน1กิโลเมตรเป็นอันต้องเจอด่านตรวจอีกชั้น  นี่เป็น     บาทต่อตัว โดยที่พวกเขาไม่ต้องมีเงินทุนส�ารอง ไม่ต้องเลี้ยงสัตว์ ไม่ต้องไป
 การสร้างมาตรฐานการป้องกันโรคสัตว์ที่น่าประทับใจมากส�าหรับนายฮ้อยยุคใหม่ ส่วนนาย           ต่อรองกับชาวบ้านรายย่อยและไม่ต้องมีรถบรรทุกเลย  แค่ต้องตื่นให้เช้า

 ฮ้อยผู้ซื้อรายใหญ่มักมาจากแถบภาคกลางแถวสุพรรณบุรี ประจวบขีรีขันธ์ ราชบุรี ลพบุรี          และขยันสร้างเครดิต  เมื่อขายได้พวกเขาจะน�าเงินไปจ่ายให้คนที่นอนอยู่
 รองลงมาก็แขกไทยที่ซื้อเข้าเขียงทั่วภาคอีสาน  ถ้าเป็นการส่งออกก็จะเป็นพ่อค้าเวียดนาม       เปลแทบทั้งวัน    โดยกฏเหล็กคือเจ้าของมือแรกจะเรียกร้องเงินเพิ่มจาก
 นานๆมาทีแต่ซื้อทีแทบเหมาตลาด  ผู้ซื้อจะขนด้วยรถสิบล้อหรือสิบแปดล้อพ่วงเหมากัน             ราคาที่ตนแจ้งไว้แต่แรกไม่ได้
 แบบอัดเต็มคันรถ ท�าให้มีวัว-ควายหมุนเวียนเข้ามายังตลาดแห่งนี้เฉลี่ยราว 800-1,000 ตัว             ส่วนนายฮอยมือแรกคนไหนที่ไม่ต้องการใช้บริการโบรคเกอร์นาย
 ต่อนัด นายฮ้อย ชาย-หญิงที่แต่งตัวเก่าๆสวมรองเท้าคีบดาวเทียมถูกๆพกพาค้อนตอกหลัก            ฮ้อยเหยียบเชือกก็ต้องลุยตลาดขายเองซึ่งส่วนใหญ่ก็จะขายได้ ก�าไรก็จะได้
 ซึ่งเป็นเครื่องมือประจ�าวิชาชีพ ความมอซอของพวกเขามันช่างลวงตาคนทั่วไปได้ง่ายจริงๆ         เต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ถ้านึกสนุกอยากท�าก�าไรระยะสั้นบ้างก็ต้องวัดดวงโดย
 เพราะในความเป็นจริงทุกคนจะมีกระเป๋าคาดเอวที่จุเงินเป็นฟ่อนๆเพื่อการซื้อขายอย่าง           การซื้อเงินสดแล้วจูงสัตว์ข้ามฝั่งตลาดไปอีกฟากแล้วท�าการขายเลย ถ้าโชค
 น้อยก็สองสามหมื่นบาท  รายใหญ่ๆก็ต้องพกกันมาทีหลักล้านเลยทีเดียว  เมื่อมีการเคาะ           ดีก็ขายได้ก�าไรทันทีแต่ถ้าโชคร้ายขายไม่ออกก็ต้องขนสัตว์กลับบ้านไปเลี้ยง
 ขายก็ต้องนับเงินสดๆกันต่อหน้าเพราะที่นี่เขาไม่รับบัตรเครดิตไม่ว่าธนาคารไหนก็ตาม           แล้วค่อยน�ากลับมาแก้มือใหม่ในนัดถัดไป  แต่ถ้าโชคยังมีซื้อเจอแม่วัวท้อง

 ความคึกคักเริ่มตั้งแต่สายๆยิ่งใกล้ปิดตลาดยิ่งถาโถม  นายท่าตลาดบอกกับเราว่า  “ค�าว่า       แก่แบบไม่รู้ตัวไปคลอดลูกที่บ้านอันนี้เขาเรียกว่าถูกหวย  นี้คือเสน่ห์ที่น่า
 เงียบเหงา” ลืมไปได้เลยมันไม่เคยเกิดขึ้นที่นี่ 30 ปีมาแล้ว                                 หลงไหลของระบบเศรษฐกิจแบบบ้านๆของเกษตรกรผู้ค้าขายสัตว์ที่เป็น
                                                                                           อาหารหลักของคนไทย     ที่ผ่านมาการเพิ่มขึ้นของการเพาะปลูกและภาค
                                                                                           อุตสาหกรรมในภาคอื่นๆของประเทศไทยท�าให้พื้นที่เลี้ยงสัตว์ลดลง ต่างกับ

                                                                                           ภาคอีสานที่ยังมีพื้นที่เลี้ยงสัตว์อีกมาก ปัจจัยนี้พลักดันให้ราคาเนื้อวัว-ควาย
                                                                                           เพิ่มสูงขึ้น เกษตรกรและพ่อค้าจึงมีรายได้สูงขึ้นไปด้วย หากเราค�านวณจาก
                                                                                           จ�านวนสัตว์เฉพาะที่เข้ามาที่ตลาดหนองกุงกระต่ายแห่งนี้ ราว 800 ตัวต่อ
                                                                                           วัน ราคาต�่าสุดตัวละ 15,000 บาท 72 วันต่อปี มันคือเงิน 864,000,000
                                                                                           บาท เน้นค�าว่านี้คือขั้นต�่า ยังไม่นับค่าธรรมเนียม ค่าวัคซีนและเงินที่นายฮ้อย
                                                                                           แต่ละคนน�ามาใช้จ่ายส่วนตัวที่อ�าเภอนาดูน   นี่คือโจทย์ทางเศรษฐกิจที่
                                                                                           จังหวัดมหาสารคามต้องหันมามองและคิดร่วมกันว่าจะเพิ่มมูลค่าตลาดแห่ง
                                                                                           นี้ได้อย่างไร
                                                                                           ตลาดซื้อ-ขาย



                                                                                                             800ล้านต่อปี
   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24