Page 27 - THE-BEST-MOVIE-OF-ALL-TIME-BEFOR
P. 27

24


               เรำจะย้อนกลับไปปี ค.ศ.1912 เสนอบทควำมตอนแรก “ค ำให้กำรของผู้รอดชีวิต”



               “ผมเห็นผู้คนหลำยร้อยคนลอยคอรอบข้ำงท้องทะเลเต็มไปด้วยผู้โดยสำรที่หนีภัยจำก

               เรือ ตอนนั้นผมรู้แต่ว่ำ จะต้องว่ำยน ้ำหนีออกไปให้ไกลจำกเรือที่สุดเท่ำที่จะท ำได้ ผม


               เหลียวหลังกลับไปดูเรืออีกครั้งไททำนิค เป็นเรือที่สวยงำมจริงๆ ตอนนั้นมีทั้งควันและ


               ประกำยไฟพุ่งออกมำจำกปล่องอยู่ตลอดเวลำ ทำงหัวเรือก่อนค่อยๆจมลง ดูเหมือนเป็ด

               ที่เอำหัวด ำลงไปในน ้ำเพื่อหำอำหำรกิน..”



               “ผมจ ำได้ว่ำตอนที่เรือก ำลังจะจมนั้น ยังได้ยินเสียงดนตรีดังมำจำกเรือ วงดนตรีทั้งวงก็


               คงจะจมลงไปพร้อมๆกันด้วย ผมพยำยำมว่ำยน ้ำอย่ำงสุดก ำลังตอนนั้นผมคงอยู่ห่ำง

               จำกเรือประมำณ 150 ฟุต (46 เมตร ) เรือค่อยๆจมลงไปอย่ำงช้ำๆ จนกระทั่งในที่สุด


               คลื่นก็ซัดสำดอยู่เหนือส่วนปลำยและหำงเสือของเรืออำกำศในขณะนั้นหนำวเย็นมำก


               ผมเห็นเรือชูชีพลอยล ำอยู่ใกล้ๆ จึงรวบรวมก ำลังทั้งหมดเท่ำที่มีอยู่ว่ำยเข้ำไปหำ แลัวก็

               มีมือๆหนึ่งเอื้อมมำช่วยฉุดผมขึ้นเรือ...” เรื่องข้ำงต้น คือค ำให้กำรของ ฮำโรลด์ ไบรด์


               เจ้ำหน้ำที่วิทยุหนุ่ม ซึ่งเป็นหนึ่งในจ ำนวนผู้โดยสำร 710 คน ที่รอดชีวิตจำกเรือเดิน

               สมุทรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกชื่อ ไททำนิค เรือดังกล่ำวได้จมลงในมหำสมุทร


               แอตแลนติก เมื่อเมื่อวันที่ 15 เมษำยน ค.ศ. 1912 ( พ.ศ.2455) หลังจำกชนภูเขำน ้ำแข็ง


               ใกล้ชำยฝั่งนิวฟันด์แลนด์จำกำรเดินทำงเที่ยวแรกและเป็นเที่ยวสุดท้ำย ปัจจุบัน ซำก

               เรือยังคงจมอยู่ที่ก้นมหำสมุทรที่ลึกกว่ำ 3,000 เมตร ส ำหรับยอดผู้เสียชีวิตจำกอุบัติภัย


               ทำงทะเลที่ใหญ่ที่สุดในครั้งนี้สูงถึง 1,514 คน เบื้องหลังของอุบัติภัยครั้งนี้ยังหำข้อยุติ


               ไม่ได้จึงมีค ำถำมเกิดขึ้นอย่ำงมำกมำย เช่น ท ำไมเรือไททำนิคที่ได้รับ ฉำยำว่ำ”เรือที่ไม่

               มีวันจม”ถึงจมได้ ? ท ำไมยอดผู้เสียชีวิตจึงสูงขนำดนั้น ? ท ำไมไททำนิคจึงบรรทุกเรือ


               ชูชีพไว้เพียงไม่กี่ล ำ ? กำรสอบสวนสำเหตุกำรจมของเรือไททำนิคในครั้งนี้มีขึ้นทั้งใน


               อังกฤษและสหรัฐอเมริกา และได้กลายมาเป็นความสนใจของคนทั่วโลกนับจั้งแต่นั้น

               เป็นต้นมา
   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32